20.10.2561 ถนน.คนเดิน ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว. # 6.
20.10.2561
ไปเดินชม ถนน.คนเดิน ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว # 6
หลังจากที่คณะฯ เข้าพักแรม ณ.โรงแรม โรงแรม สเตชัน วัน (Station ONE Hotel) ถนน.ธนะวิถี ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว แล้ว ยามค่ำคืนจึงออกเดินสำรวจบริเวณโดยรอบโรงแรมฯ
เนื่องจากขณะนั้นเป็นเวลาเกือบ 3 ทุ่ม (21.00 น) พนักงานโรงแรมได้ให้ข้อมุลว่า ถนนคนเดิน / ตลาดปิดแล้ว แต่ ก็ยังทำให้เห็นร้านค้าต่างๆที่กำลังทะยอยปิดร้าน และ บางร้านก็ยังเปิดอยู่บ้าง ครับ.
จึงไม่อาจบอกได้ว่า ตลาดนัด / ถนน.คนเดินแห่งนี้ มีความคึกคัก หรือ เศรษฐกิจเป็นอย่างไร ครับ.
บันทึกการเดินทางการเดินทางไปเยือน นครวัด (Angkor Wat)
จังหวัดเสียมเรียบ (Siem Reap Province) ราชอาณาจักรกัมพูชา ( Kingdom of Cambodia)
ในช่วงเวลาระหว่าง วันเสาร์ ที่ 20 ตุลาคม - 24 ตุลาคม 2561
01. ณ.โรงแรม โรงแรม สเตชัน วัน (Station ONE Hotel) ถนน.ธนะวิถี ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว.
02. ตลาดนัด / ถนน.คนเดิน อยู่ใกล้ โรงแรม สเตชัน วัน (Station ONE Hotel) ถนน.ธนะวิถี ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว.
03. ตลาดนัด / ถนน.คนเดิน อยู่ใกล้ โรงแรม สเตชัน วัน (Station ONE Hotel) ถนน.ธนะวิถี ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว.
04.ตลาดนัด / ถนน.คนเดิน อยู่ใกล้ โรงแรม สเตชัน วัน (Station ONE Hotel) ถนน.ธนะวิถี ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว.
05. ตลาดนัด / ถนน.คนเดิน อยู่ใกล้ โรงแรม สเตชัน วัน (Station ONE Hotel) ถนน.ธนะวิถี ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว.
06.ตลาดนัด / ถนน.คนเดิน อยู่ใกล้ โรงแรม สเตชัน วัน (Station ONE Hotel) ถนน.ธนะวิถี ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว.
07.ตลาดนัด / ถนน.คนเดิน อยู่ใกล้ โรงแรม สเตชัน วัน (Station ONE Hotel) ถนน.ธนะวิถี ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว.
08.ตลาดนัด / ถนน.คนเดิน อยู่ใกล้ โรงแรม สเตชัน วัน (Station ONE Hotel) ถนน.ธนะวิถี ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว.
09.ตลาดนัด / ถนน.คนเดิน อยู่ใกล้ โรงแรม สเตชัน วัน (Station ONE Hotel) ถนน.ธนะวิถี ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว.
10. ตลาดนัด / ถนน.คนเดิน อยู่ใกล้ โรงแรม สเตชัน วัน (Station ONE Hotel) ถนน.ธนะวิถี ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว.
11.ตลาดนัด / ถนน.คนเดิน อยู่ใกล้ โรงแรม สเตชัน วัน (Station ONE Hotel) ถนน.ธนะวิถี ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว.
12. ตลาดนัด / ถนน.คนเดิน อยู่ใกล้ โรงแรม สเตชัน วัน (Station ONE Hotel) ถนน.ธนะวิถี ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว.
13. ตลาดนัด / ถนน.คนเดิน อยู่ใกล้ โรงแรม สเตชัน วัน (Station ONE Hotel) ถนน.ธนะวิถี ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว.
14. ตลาดนัด / ถนน.คนเดิน อยู่ใกล้ โรงแรม สเตชัน วัน (Station ONE Hotel) ถนน.ธนะวิถี ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว.
15. ตลาดนัด / ถนน.คนเดิน อยู่ใกล้ โรงแรม สเตชัน วัน (Station ONE Hotel) ถนน.ธนะวิถี ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว.
16. ตลาดนัด / ถนน.คนเดิน อยู่ใกล้ โรงแรม สเตชัน วัน (Station ONE Hotel) ถนน.ธนะวิถี ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว.
17. ตลาดนัด / ถนน.คนเดิน อยู่ใกล้ โรงแรม สเตชัน วัน (Station ONE Hotel) ถนน.ธนะวิถี ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว.
18. ตลาดนัด / ถนน.คนเดิน อยู่ใกล้ โรงแรม สเตชัน วัน (Station ONE Hotel) ถนน.ธนะวิถี ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว.
19.
20.
21.
Moonfleet @นครวัด (Angkor Wat) จังหวัดเสียมเรียบ (Siem Reap Province) ราชอาณาจักรกัมพูชา ( Kingdom of Cambodia).
ไปเดินชม ถนน.คนเดิน ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว # 6
หลังจากที่คณะฯ เข้าพักแรม ณ.โรงแรม โรงแรม สเตชัน วัน (Station ONE Hotel) ถนน.ธนะวิถี ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว แล้ว ยามค่ำคืนจึงออกเดินสำรวจบริเวณโดยรอบโรงแรมฯ
เนื่องจากขณะนั้นเป็นเวลาเกือบ 3 ทุ่ม (21.00 น) พนักงานโรงแรมได้ให้ข้อมุลว่า ถนนคนเดิน / ตลาดปิดแล้ว แต่ ก็ยังทำให้เห็นร้านค้าต่างๆที่กำลังทะยอยปิดร้าน และ บางร้านก็ยังเปิดอยู่บ้าง ครับ.
จึงไม่อาจบอกได้ว่า ตลาดนัด / ถนน.คนเดินแห่งนี้ มีความคึกคัก หรือ เศรษฐกิจเป็นอย่างไร ครับ.
บันทึกการเดินทางการเดินทางไปเยือน นครวัด (Angkor Wat)
จังหวัดเสียมเรียบ (Siem Reap Province) ราชอาณาจักรกัมพูชา ( Kingdom of Cambodia)
ในช่วงเวลาระหว่าง วันเสาร์ ที่ 20 ตุลาคม - 24 ตุลาคม 2561
01. ณ.โรงแรม โรงแรม สเตชัน วัน (Station ONE Hotel) ถนน.ธนะวิถี ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว.
02. ตลาดนัด / ถนน.คนเดิน อยู่ใกล้ โรงแรม สเตชัน วัน (Station ONE Hotel) ถนน.ธนะวิถี ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว.
03. ตลาดนัด / ถนน.คนเดิน อยู่ใกล้ โรงแรม สเตชัน วัน (Station ONE Hotel) ถนน.ธนะวิถี ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว.
19.
20.
21.
22. ณ.โรงแรม โรงแรม สเตชัน วัน (Station ONE Hotel) ถนน.ธนะวิถี ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว.
--------------------------------------------------------------------------
ข้อมูล และ ความรู้ เพิ่มเติม.
สุดแดนสยามบูรพา ย่านการค้าอินโดจีน
ชนท้องถิ่นห้าชาติ พระสยามเทวาธิราชศักดิ์สิทธิ์
แหล่งผลิตผ้าทอมือ เลื่องชื่อแตงแคนตาลูป
--------------------------------------------------------------------------
ข้อมูล และ ความรู้ เพิ่มเติม.
สุดแดนสยามบูรพา ย่านการค้าอินโดจีน
ชนท้องถิ่นห้าชาติ พระสยามเทวาธิราชศักดิ์สิทธิ์
แหล่งผลิตผ้าทอมือ เลื่องชื่อแตงแคนตาลูป
อำเภออรัญประเทศ
| |||||||||||||||||||||||||||||||||||
อรัญประเทศ เป็นอำเภอชายแดนทางด้านตะวันออกของประเทศไทย มีแนวชายแดนติดต่อกับประเทศกัมพูชา เดิมเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดกบินทร์บุรี ภายหลังถูกยุบรวมกับจังหวัดปราจีนบุรี (เมื่อวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2468) ปัจจุบันเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดสระแก้วซึ่งเป็นจังหวัดที่ตั้งขึ้นมาใหม่ภายหลัง (เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2536)
เนื้อหา
ที่ตั้งและอาณาเขต[แก้]
อำเภออรัญประเทศตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของจังหวัด มีอาณาเขตติดต่อกับเขตการปกครองข้างเคียงดังต่อไปนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอวัฒนานครและอำเภอโคกสูง
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับประเทศกัมพูชา
- ทิศใต้ ติดต่อกับประเทศกัมพูชาและอำเภอคลองหาด
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอคลองหาดและอำเภอวัฒนานคร
ประวัติ[แก้]
อำเภออรัญประเทศ เดิมชื่อ บ้านหินแร่ ได้รับการยกฐานะขึ้นเป็น เมืองอรัญประเทศ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) เมื่อ พ.ศ. 2393 ได้รับเปลี่ยนแปลงฐานะเป็นอำเภอในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่ 7) ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยระเบียบบริหารราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2476 มีขุนเหี้ยมใจหาญเป็นนายอำเภอ โดยยุบวัฒนานครเดิมชื่อบ้านแขยกเป็นกิ่งอำเภอขึ้นกับอำเภออรัญประเทศ
เดิมเชื่อกันว่าแท้จริงแล้วชาวอรัญประเทศเป็นกลุ่มไทยย้อชาวเวียงจันทน์หรือท่าอุเทนที่อพยพมา หลังจากเจ้าพระยาราชสุภาวดี (สิงห์ สิงหเสนี) ยกทัพไปตีเมืองเวียงจันทน์เพื่อปราบกบฏเจ้าอนุวงศ์ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยชาวย้อได้อพยพมาอยู่ที่ดงอรัญ เขตบ้านสวาย (ต่อมายกขึ้นเป็นเมืองศรีโสภณ) ขณะนั้นกัมพูชาเป็นประเทศราชของสยาม ภายหลังโยกย้ายเข้ามาในเขตอำเภออรัญประเทศ ที่ตั้งถิ่นฐานส่วนใหญ่จะอยู่ในเขตตำบลคลองน้ำใส ตำบลเมืองไผ่ ตำบลท่าข้าม ตำบลผ่านศึก และในเขตเทศบาลเมืองอรัญญประเทศ ยกเว้นในตลาดอำเภออรัญประเทศ
พื้นที่อำเภออรัญประเทศมีถนนโบราณสายหนึ่งตัดผ่านจากทิศตะวันออกไปทิศตะวันตก ทางทิศเหนือหมู่บ้านอรัญประมาณ 400 เมตร มีคนเล่าต่อกันมาว่าเจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) เป็นผู้สร้างไว้ ต่อมาจึงมีผู้ตั้งชื่อว่า ถนนเจ้าพระยาบดินทรเดชา สันนิษฐานว่า สถานีอรัญประเทศ เป็นจุดปลายทางของรถไฟสายตะวันออกซึ่งสร้างลงบน “ฉนวนไทย” หรือทางราบที่ใช้ติดต่อระหว่างที่ราบลุ่มเจ้าพระยากับที่ราบลุ่มทะเลสาบเขมรมาแต่โบราณ เส้นทางรถไฟจากปราจีนบุรีจนถึงอรัญประเทศน่าจะซ้อนทับลงบนทางเดินบกโบราณจากภาคกลางของไทยไปสู่ที่ราบลุ่มทะเลสาบของเขมรที่เรียกกันว่า ฉนวนไทย มีแหล่งโบราณคดีใหญ่น้อยกระจายตัวกันตามลำน้ำอันเป็นต้นสายแม่น้ำบางปะกงคือแควหนุมานกับแควพระปรง และยังมีด่านพระจารึก ซึ่งปรากฏชื่อในเอกสารพงศาวดารสมัยอยุธยาว่าเป็นจุดสำคัญทางประวัติศาสตร์บนเส้นทางสายนี้ด้วย
ดังนั้น เส้นทางรถไฟจากชายแดนไทย-กัมพูชาที่มีต่อไปจนถึงศรีโสภณ พระตะบอง จึงน่าจะสร้างลงบนทางเดินโบราณนี้ด้วยเช่นกัน เจ้าพระยาบดินทรเดชาคงสร้างขึ้นเมื่อคราวยกทัพกลับจากตีเขมรและญวน
อำเภออรัญประเทศได้ยกฐานะขึ้นจากกิ่งอำเภออรัญประเทศในปี พ.ศ. 2456 อาชีพหลักของคนในอำเภออรัญประเทศแต่เดิมได้แก่ การค้าขายและเกษตรกรรม โดยในอดีตนิยมปลูกข้าว และมันสำปะหลัง ปัจจุบันนิยมปลูกอ้อยเพื่อส่งโรงงาน และเป็นแหล่งส่งเสริมการปลูกแคนตาลูปเป็นแห่งแรกในประเทศไทย
เมื่อ พ.ศ. 2473 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จนิวัติพระนครหลังจากเสด็จประพาสไซ่ง่อน เวียดนาม และอินโดนีเซีย โดยรถยนต์พระที่นั่งถึงอำเภออรัญประเทศ ได้ประทับบนสถานีรถไฟอรัญประเทศประมาณ 30 นาที แล้วจึงเสด็จขึ้นประทับรถไฟขบวนพิเศษจากอรัญประเทศเข้าพระนคร ในครั้งยังเป็นการปกครองในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ประชาชนที่มาเฝ้ารับเสด็จจึงมีเฉพาะชาวอรัญเท่านั้น เนื่องจากการคมนาคมยังไม่สะดวก การติดต่อข่าวสารยังล่าช้า
พ.ศ. 2512 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จมาถวายผ้าพระกฐินส่วนพระองค์ ณ วัดหลวงอรัญญ์ อำเภออรัญประเทศ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2512 เสด็จพระราชดำเนินโดยเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งจากพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต จนกระทั่งเวลา 12.00 น. โดยประมาณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากค่ายสุรสิงหนาทถึงยังหน้าพระอุโบสถ ทรงถวายผ้าพระกฐิน มีประชาชนมาเฝ้ารับเสด็จชมพระบารมีนับหมื่น หลังจากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จต่อไปยังนิคมสร้างตนเองคลองน้ำใสในเวลาประมาณ 13.30 น.
ลักษณะภูมิอากาศ[แก้]
สภาพภูมิอากาศแบ่งออกได้เป็น 3 ฤดูกาล
- ฤดูร้อน เริ่มต้นแต่เดือนกุมภาพันธ์-เดือนเมษายน
- ฤดูฝน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-เดือนตุลาคม
- ฤดูหนาว ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-เดือนมกราคม
อุณหภูมิโดยเฉลี่ย 27.5-28.78 องศาเซลเซียส
การแบ่งเขตการปกครอง[แก้]
การปกครองส่วนภูมิภาค[แก้]
| 1. | อรัญประเทศ | (Aranyaprathet) | 8. | บ้านใหม่หนองไทร | (Ban Mai Nong Sai) | |||||||
| 2. | เมืองไผ่ | (Mueang Phai) | 9. | ผ่านศึก | (Phan Suek) | |||||||
| 3. | หันทราย | (Han Sai) | 10. | หนองสังข์ | (Nong Sang) | |||||||
| 4. | คลองน้ำใส | (Khlong Nam Sai) | 11. | คลองทับจันทร์ | (Khlong Thap Chan) | |||||||
| 5. | ท่าข้าม | (Tha Kham) | 12. | ฟากห้วย | (Fak Huai) | |||||||
| 6. | ป่าไร่ | (Pa Rai) | 13. | บ้านด่าน | (Ban Dan) | |||||||
| 7. | ทับพริก | (Thap Phrik) |
การปกครองส่วนท้องถิ่น[แก้]
ท้องที่อำเภออรัญประเทศประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 13 แห่ง ได้แก่
- เทศบาลเมืองอรัญญประเทศ[1] ครอบคลุมพื้นที่ตำบลอรัญประเทศทั้งตำบล
- เทศบาลตำบลฟากห้วย ครอบคลุมพื้นที่ตำบลฟากห้วยทั้งตำบล
- เทศบาลตำบลบ้านด่าน ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบ้านด่านทั้งตำบล
- เทศบาลตำบลป่าไร่ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลป่าไร่ทั้งตำบล
- เทศบาลตำบลบ้านใหม่หนองไทร ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบ้านใหม่หนองไทรทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลเมืองไผ่ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลเมืองไผ่ทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลหันทราย ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหันทรายทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลคลองน้ำใส ครอบคลุมพื้นที่ตำบลคลองน้ำใสทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลท่าข้าม ครอบคลุมพื้นที่ตำบลท่าข้ามทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลทับพริก ครอบคลุมพื้นที่ตำบลทับพริกทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลผ่านศึก ครอบคลุมพื้นที่ตำบลผ่านศึกทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลหนองสังข์ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหนองสังข์ทั้งตำบล
- องค์การบริหารส่วนตำบลคลองทับจันทร์ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลคลองทับจันทร์ทั้งตำบล
แหล่งท่องเที่ยว[แก้]
- ปราสาทเขาน้อย เป็นโบราณสถานของชาติ ปราสาทเขาน้อยสีชมพูแห่งนี้ ยังปรากฏอยู่ในภาพสัญลักษณ์ประจำจังหวัดสระแก้วอีกด้วย
- ปราสาทเมืองไผ่ โบราณสถานที่ก่อสร้างด้วยอิฐศิลาแลง ปัจจุบันพังทลายจนไม่มีเค้าโครงเดิมให้เห็น นับเป็นโบราณสถานที่เก่าแก่และทรงคุณค่าอีกแห่งหนึ่ง
- เนินโบราณสถานบ้านหนองคู
- โบราณสถานเขารัง
- วัดชนะไชยศรี
- ศิลาจารึกบ้านกุดแต้
- ตลาดอินโดจีนรถโดยสารประจำทาง บริษัท ขนส่ง จำกัด มีบริการรถโดยสารประจำทางทั้งรถธรรมดาและรถปรับอากาศ ออกจากสถานีขนส่งหมอชิต ถนนกำแพงเพชร 2 ทุกวัน สอบถามได้ที่ โทร 0-2936-2852-66 ต่อ 311 ท่ารถปลายทางอยู่หน้าตลาดอินโดจีน
- พระสยามเทวาธิราช ตั้งอยู่บริเวณใกล้ที่ทำการเทศบาลอรัญประเทศ ติดกับสถานีตำรวจ สร้างขึ้นมานานกว่า 20 ปี เป็นที่เคารพนับถือของชาวอรัญประเทศ หลายคนเชื่อว่าเป็นผู้ปกปักษ์รักษาเมืองอรัญให้รอดพ้นจากภัยพิบัติร้ายแรง
- ตลาดชายแดนบ้านคลองลึก (ตลาดโรงเกลือ) ตลาดชายแดนไทย-กัมพูชา ที่มีสินค้าจำหน่ายมากมาย เช่น เสื้อผ้า เครื่องทองเหลือง กระเบื้องถ้วยชามต่าง ๆ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักสาน เป็นต้น
- วัดอนุบรรพต สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 เป็นวัดที่มีอุโบสถสวยงามและลักษณะแปลกกว่าอุโบสถทั่วไป คือสร้างเป็นฐานรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส หลังคาทรงไทยยอดแหลมสูง ตกแต่งสวยงาม
- ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ศาลหลักเมืองที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2375 เป็นที่เคารพสักการะของประชาชนในจังหวัดสระแก้ว
- ประตูชัยอรัญประเทศ สร้างเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2482 โดยกรมยุทธโยธาทหารบกได้ระดมกำลังทหารช่างทำการสร้างทั้งกลางวันและและกลางคืนตลอด 24 ชั่วโมง แล้วเสร็จภายใน 29 วัน เสร็จเมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2482
- ประตูทางผ่านเข้าออกไทย-กัมพูชา ที่ตั้งอยู่ระหว่างพรมแดนไทย-กัมพูชา ติดกับเมืองปอยเปต ประตูแห่งนี้ถูกปิดมาตั้งแต่ พ.ศ. 2518 ปัจจุบันได้เปิดพรมแดน ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2541 ทำให้ประชาชนชาวไทยและกัมพูชาเดินผ่านเข้าออกหากันได้
- สถานีรถไฟอรัญประเทศ สร้างเสร็จเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2469 เป็นสถานีแห่งประวัติศาสตร์ของท้องถิ่นเป็นสถานที่ร่วมสมัยในยุครถจักรไอน้ำเฟื่องฟูจนถึงรถจักรหัวลากดีเซลหลักฐานที่ยังคงหลงเหลือคือหอเหล็กเติมน้ำให้หัวรถจักรในบริเวณใกล้เคียงกันไม่ไกลนัก ทางรถไฟไทยสร้างบนเส้นทางสมัยโบราณ ทางสายกรุงเทพ-อรัญประเทศ ในสมัยรัชกาลที่ 5 รัฐบาลสยามได้ตัดทางรถไฟเชื่อมระหว่างกรุงเทพฯกับฉะเชิงเทรา (แปดริ้ว) ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 6 จึงได้ขยายเส้นทางไปทางตะวันออกจนเชื่อมกับรถไฟของกัมพูชาหรืออินโดจีนฝรั่งเศสในขณะนั้นที่ ต.คลองลึก อ.อรัญประเทศ
เส้นทางรถไฟสายตะวันออกยังคงใช้แนวทางคมนาคมเก่าคือแม่น้ำลำคลองที่มีอยู่ก่อนหน้าเป็นสำคัญ
ทางรถไฟแยกออกจากทางสายหลักที่สถานีจิตรลดาไปทางทิศตะวันออกโดยล้อกับแนวคลองมหานาคซึ่งอยู่ทางใต้ คลองมหานาคนี้ขุดขึ้นสมัยรัชกาลที่ 1 แยกจากคูเมืองตรงวัดสระเกศเพื่อใช้เดินทางติดต่อกับชุมชนทางตะวันออกของกรุงเทพ ต่อมาสมัยรัชกาลที่ 3 ได้ขุดต่อออกไปเชื่อมกับแม่น้ำบางปะกงที่ประตูน้ำท่าไข่ ฉะเชิงเทราเพื่อการส่งกำลังไปทำสงครามด้านตะวันออกคือเขมรและญวนในสมัยนั้น เรียกกันต่อมาว่าคลองแสนแสบ
จากคลองตัน ทางรถไฟข้ามคลองแสนแสบซึ่งหันเบนขึ้นไปทางเหนือ จากนี้ทางรถไฟก็จะเปลี่ยนมาใช้แนวคู่ขนานกับคลองประเวศบุรีรมย์ตรงบริเวณบ้านทับช้าง คลองประเวศฯขุดขึ้นในปี พ.ศ. 2423 แยกจากคลองพระโขนงไปทางตะวันออกเป็นเส้นตรงถึงแม่น้ำบางปะกงใต้เมืองฉะเชิงเทราเล็กน้อย ระหว่างที่ทางรถไฟใช้แนวคลองประเวศไปถึงฉะเชิงเทราก็จะข้ามคลองสำคัญหลายแห่งซึ่งไหลจากเหนือลงใต้อันเป็นคลองที่ระบายน้ำจากที่ลุ่มต่ำฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยาลงสู่ทะเลมีทั้งคลองธรรมชาติและคลองขุด เช่น คลองหลวงแพ่ง คลองอุดมชลจร คลองเปรง คลองแขวงกลั่น คลองบางพระ เข้าสู่ตัวเมืองฉะเชิงเทรา ซึ่งในสมัยแรกสร้างนั้นรางรถไฟได้ไปสุดทางที่สถานีแปดริ้วริมแม่น้ำบางปะกง
ทางแยกไปอรัญประเทศคือรางรถไฟหัวมุมเลี้ยวขึ้นทิศเหนือเพื่อตามแนวแม่น้ำบางปะกงขึ้นไปแต่ใช้การตัดทางตรงผ่านที่ราบจนพบกับแม่น้ำโยทะกาไหลมาจากนครนายกลงแม่น้ำบางปะกง จุดนี้เองเป็นเส้นทางเดินทัพในสมัยโบราณที่ถูกกล่าวถึงเมื่อคราวสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีไล่รบกับกองทัพพม่าแถบเมืองบางคางหรือปราจีนบุรี
ตั้งแต่ช่วงบ้านสร้าง ทางรถไฟโค้งไปทางตะวันออกล้อกับแม่น้ำบางปะกงที่เรียกตอนนี้ว่าแม่น้ำปราจีนบุรี ซึ่งจะมีแนวเทือกเขาใหญ่ขนานอยู่ทางทิศเหนือ จนเข้าสู่เมืองปราจีนบุรี จากจุดนี้ทางรถไฟใช้การตัดทางใหม่ลัดเข้าสู่ต้นน้ำบางปะกง มีชุมชนโบราณที่เป็นด่านระหว่างทางบนลำน้ำ เช่น ประจันตคามหรือด่านกบแจะ กบินทร์บุรีหรือด่านหนุมานและพระปรง(เป็นจุดที่ทางรถไฟข้ามแควหนุมานและแควพระปรง ต้นน้ำบางปะกง) ต่อจากนั้นจึงใช้เส้นทางบกตัดลัดผ่านชุมชนที่ราบ เช่น สระแก้ว วัฒนานคร จนถึงอรัญประเทศและจุดผ่านแดนบ้านคลองลึกเข้าสู่ปอยเปตของกัมพูชา
แท้จริงแล้ว เส้นทางรุถไฟจากปราจีนบุรีจนถึงอรัญประเทศน่าจะซ้อนทับลงบนทางเดินบกโบราณจากภาคกลางของไทยไปสู่ที่ราบลุ่มทะเลสาบของเขมรที่เรียกกันว่า ฉนวนไทย มีแหล่งโบราณคดีใหญ่น้อยกระจายตัวกันตามลำน้ำอันเป็นต้นสายแม่น้ำบางปะกงคือแควหนุมานกับแควพระปรง และยังมีด่านพระจารึก ซึ่งปรากฏชื่อในเอกสารพงศาวดารสมัยอยุธยาว่าเป็นจุดสำคัญทางประวัติศาสตร์บนเส้นทางสายนี้ด้วย
ดังนั้น เส้นทางรถไฟจากชายแดนไทย-กัมพูชาที่มีต่อไปจนถึงศรีโสภณ พระตะบอง จึงน่าจะสร้างลงบนทางเดินโบราณนี้ด้วยเช่นกัน
- จุดผ่านแดนบ้านหนองเอี่ยน- สตึงบท ปัจจุบันการค้าบริเวณบ้านคลองลึก (ตลาดโรงเกลือ)เติบโตอย่างรวดเร็ว ประกอบกับมีตลาด อินโดจีน เพิ่มขึ้นมาทำให้เกิดความคับคั่ง
ของการจราจร ทั้งนักท่องเที่ยวและรถขนส่งสินค้า ไทยและกัมพูชาจึงมีแนวคิด แยกคนและสินค้า ออกจากกัน เน้นการขนส่งสินค้าเป็นหลัก ที่ตั้งบ้านหนองเอี่ยน ตำบลท่าข้าม จังหวัดสระแก้ว.
-----------------------------------------------------------------------------------------
ชายแดนเบื้องบูรพา ป่างามน้ำตกสวย
มากด้วยรอยอารยธรรมโบราณ ย่านการค้าไทย-เขมร
มากด้วยรอยอารยธรรมโบราณ ย่านการค้าไทย-เขมร
จังหวัดสระแก้ว
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เนื้อหา
สัญลักษณ์ประจำจังหวัด[แก้]
- ตราประจำจังหวัด : พระพุทธรูปปางสรีระประทับยืนบนดอกบัว ด้านหลังเป็นภาพพระอาทิตย์ยามรุ่งอรุณ ตอนกลางเป็นภาพโบราณสถานปราสาทเขาน้อยสีชมพู
- คำขวัญประจำจังหวัด : ชายแดนเบื้องบูรพา ป่างาม น้ำตกสวย มากด้วยรอยอารยธรรมโบราณ ย่านการค้าไทย-เขมร
- ต้นไม้ประจำจังหวัด : มะขามป้อม (Phyllanthus emblica)
- ดอกไม้ประจำจังหวัด : ดอกแก้ว (Murraya paniculata)
- สัตว์น้ำประจำจังหวัด : ปลาบ้าหรือปลาพวง (Leptobarbus hoevenii)
ประวัติศาสตร์[แก้]
ในสมัยอาณาจักรสุวรรณภูมิและอาณาจักรทวารวดี สระแก้วเป็นชุมชนที่มีความสำคัญแห่งหนึ่ง มีฐานะเป็นเมืองขึ้นของเมืองปราจีนบุรี (เมืองประจิมในสมัยโบราณ)
สระแก้ว เป็นชื่อที่มาจากชื่อสระน้ำโบราณซึ่งอยู่ในพื้นที่อำเภอเมืองสระแก้ว มีอยู่จำนวน 2 สระ ในสมัยกรุงธนบุรีราวปี พ.ศ. 2323 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (เมื่อครั้งทรงเป็นสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก) เป็นแม่ทัพยกทัพไปตีกัมพูชา (เขมร) ได้แวะพักกองทัพที่บริเวณสระน้ำทั้งสองแห่งนี้ กองทัพได้อาศัยน้ำจากสระใช้สอยและได้ขนานนามสระทั้งสองว่า "สระแก้ว-สระขวัญ" และได้นำน้ำจากสระทั้งสองแห่งนี้ใช้ในการประกอบพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา โดยถือว่าเป็นน้ำบริสุทธิ์
สมัยก่อนสระแก้วมีฐานะเป็นตำบลขึ้นอยู่ในการปกครองของอำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดกบินทร์บุรี ซึ่งทางราชการได้ตั้งเป็นด่านสำหรับตรวจคนและสินค้าเข้า-ออก มีข้าราชการตำแหน่งนายกองทำหน้าที่เป็นนายด่าน จนถึงปี พ.ศ. 2452 ทางราชการจึงได้ยกฐานะขึ้นเป็นกิ่งอำเภอ ชื่อว่า กิ่งอำเภอสระแก้ว โดยใช้ชื่อสระน้ำเป็นชื่อกิ่งอำเภอ ขึ้นกับอำเภอกบินทร์บุรี ภายหลังจังหวัดกบินทร์บุรีถูกยุบ จึงถูกยุบรวมกับจังหวัดปราจีนบุรี (เมื่อวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2468) ต่อมาเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2501 ได้มีพระราชกฤษฎีกายกฐานะขึ้นเป็นอำเภอชื่อว่า อำเภอสระแก้ว ขึ้นอยู่ในการปกครองของจังหวัดปราจีนบุรี และในวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2536 ได้รับการยกฐานะเป็นจังหวัด เป็นจังหวัดลำดับที่ 74 ของประเทศไทย
การเกิดชุมชนและการตั้งถิ่นฐานบริเวณเมืองสระแก้ว[แก้]
ประมาณ 4,000 ปีก่อน บริเวณอ่าวไทยยังเป็นทะเลโคลนตมเว้าลึกเข้ามาในแผ่นดินมากกว่าปัจจุบัน พื้นที่ที่เป็นจังหวัดสระแก้วยังไม่มีผู้คนอยู่อาศัย เป็นเพียงแค่ทางผ่าน ต่อมาเริ่มมีคนมาตั้งถิ่นฐานจนขยายใหญ่ขึ้นเป็นหมู่บ้าน ผู้คนพากันตั้งหลักแหล่งบริเวณเชิงเขา ซึ่งปัจจุบันคือ อำเภอตาพระยา อำเภอโคกสูง อำเภอวัฒนานคร อำเภออรัญประเทศ อำเภอเมืองสระแก้ว และอำเภอเขาฉกรรจ์ โดยเฉพาะบนสองฝั่งลำน้ำพระปรงและพระสะทึง จากนั้นผู้คนได้กระจายออกไปอยู่บริเวณที่ดอนกลางทะเลโคลนตม ที่ปัจจุบันคือ อำเภอบ้านสร้างอำเภอเมืองปราจีนบุรี อำเภอประจันตคาม ในจังหวัดปราจีนบุรี
พ.ศ. 1000 ชุมชนที่ตั้งถิ่นฐานบริเวณเมืองสระแก้วได้พัฒนาเป็นชุมชนที่หนาแน่นขึ้น โดยแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม คือ กลุ่มลำน้ำพระปรง-พระสะทึง มีวัฒนธรรมแบบสุวรรณภูมิสมัยก่อนประวัติศาสตร์ และแบบทวาราวดี มีศูนย์กลางอยู่ที่เขาฉกรรจ์ และกลุ่มลำห้วยพรมโหด มีวัฒนธรรมแบบขอม ศูนย์กลางอยู่ที่ปราสาทเขาน้อย-เขารังและบ้านเมืองไผ่ (ปัจจุบันอยู่ในเขตอำเภออรัญประเทศ)
สมัยโบราณ สระแก้วมีความสำคัญในด้านเป็นเส้นทางคมนาคมทางตะวันตก-ตะวันออก (ระหว่างเมืองชายฝั่งทะเลอ่าวไทยกับกัมพูชา) และทางเหนือ-ใต้ (ระหว่างเมืองในลุ่มน้ำโขง ชี มูล กับเมืองชายฝั่งทางจันทบุรี) กระทั่งหลัง พ.ศ. 1500 รัฐพื้นเมืองต่าง ๆ ในสุวรรณภูมิมีการปรับตัวเนื่องจากการทำการค้ากับจีน ประกอบกับภูมิประเทศบริเวณอ่าวไทยเปลี่ยนแปลงกลายเป็นแผ่นดินตื้นเขินขึ้น เส้นทางคมนาคมทางน้ำเปลี่ยนแปลง ผู้คนจึงอพยพย้ายถิ่นออกจากสระแก้ว
บริเวณลุ่มน้ำบางปะกงมีกลุ่มบ้านเมืองเกิดขึ้นราว พ.ศ. 1900 เป็นชุมชนขนาดเล็ก ผู้คนเสาะหาของป่าเพื่อส่งส่วยให้แก่ราชธานีต่าง ๆ ต่อมาพัฒนาเป็นเมืองชายแดน เป็นเส้นทางเดินทัพผ่านไปยังกัมพูชา
เส้นทางการเดินทัพในอดีต[แก้]
สระแก้วเป็นเมืองชายแดน จึงเป็นทางผ่านของกองทัพในการทำสงครามกับประเทศเพื่อนบ้านอยู่บ่อยครั้ง ดังปรากฏหลักฐานจำพวกจารึกต่าง ๆ และอนุสาวรีย์ของผู้นำทัพที่ผ่านมายังเมืองนี้
สมัยอยุธยา สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ครั้งยังเป็นสมเด็จพระมหาอุปราช ได้ยกทัพมาปราบปรามอริราชศัตรูที่ลักลอบเข้าโจมตี กวาดต้อนผู้คนบริเวณชายแดน มีการตั้งค่ายคูเมือง ปลูกยุ้งฉาง ไว้ที่ท่าพระทำนบ ซึ่งเชื่อว่าคือ อำเภอวัฒนานคร ในปัจจุบัน
ก่อนกรุงศรีอยุธยาแตก พระเจ้าตากทรงหนีพม่าไปเมืองจันทบุรี โดยพาไพร่คนสนิทหนีฝ่ากองทัพพม่าไปทางทิศตะวันออก ผ่านบริเวณ ดงศรีมหาโพธิ์ อันเป็นเขตป่าต่อเนื่องจากที่ราบลุ่ม ขึ้นไปถึงที่ลุ่มดอนของเมืองสระแก้ว แล้วไปยังชลบุรี ระยอง และจันทบุรี
สมัยกรุงธนบุรี พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชครั้งเป็นเจ้าพระยาจักรี พร้อมบุตรชาย ยกทัพไปเสียมราฐและได้แวะพักแรมในบริเวณที่ปัจจุบันเรียกว่า สระแก้ว สระขวัญ
ช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ เจ้าพระยาบดินทร์เดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ขุนพลแก้วในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พักทัพก่อนยกไปปราบญวน ณ บริเวณที่ภายหลังเมื่อเสร็จศึกญวนแล้วสร้างเป็นวัดตาพระยา อำเภอตาพระยา
การรวมตัวของคนหลายเชื้อชาติ[แก้]
ชาวเขมรอพยพเข้ามาในสระแก้ว เนื่องจากเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ (ชุ่ม อภัยวงศ์) ผู้สำเร็จราชการเมืองพระตะบอง อพยพชาวเขมรให้เข้ามาในฝั่งไทยภายหลังเหตุการณ์ที่ไทยเข้าปกครองกัมพูชาและจัดตั้งมณฑลบูรพาขึ้น แล้วถูกฝรั่งเศสยึดกัมพูชารวมทั้งมณฑลบูรพาคืนไปได้ นอกจากนี้เมื่อเกิดสงครามเวียดนามและสงครามกัมพูชาขึ้น ก็มีการอพยพชาวกัมพูชาเข้ามาในบริเวณชายแดนฝั่งไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในเขตอำเภออรัญประเทศ
ชาวเวียดนามหรือญวนอพยพมายังจังหวัดสระแก้ว เพื่อหนีภัยสงครามเวียดนามในยุคที่เวียดนามใต้แตก โดยเดินทางผ่านประเทศกัมพูชาเข้ามา ส่วนใหญ่อยู่ในอำเภออรัญประเทศ
ส่วนชาวลาวมีหลายกลุ่ม ดังเช่นกลุ่มไทยโยนกหรือลาวพุงดำเป็นกลุ่มล้านนาเดิม อาศัยมากอยู่ที่อำเภอวังน้ำเย็น รวมทั้งชาวญ้อที่มีถิ่นฐานเดิมอยู่ที่สิบสองปันนาแล้วไปตั้งรกรากที่แขวงไชยบุรีของลาว ต่อมาถูกทัพไทยกวาดต้อนลงมาที่ อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม โดยบางส่วนได้อพยพต่อมายังอำเภออรัญประเทศ นอกจากนี้ยังมีชาวอีสานอพยพเข้ามาทำมาหากินในเกือบทุกอำเภอของจังหวัดสระแก้ว
ร่องรอยอารยธรรม[แก้]
มีร่องรอยอารยธรรมโบราณปรากฏอยู่ในจังหวัดสระแก้วในรูปของปราสาทหิน แหล่งหินตัด ซากสิ่งก่อสร้าง เป็นต้น กรมศิลปากรสำรวจพบปราสาทขอมในจังหวัดสระแก้วมากถึง 40 แห่ง ตั้งเรียงรายอยู่บนเส้นทางผ่านช่องเขา หันไปทางทิศตะวันออก คือหันหน้าเข้าหานครวัด เท่าที่มีหลักฐาน พบว่าปราสาทเหล่านี้มีอายุอยู่ในราวพุทธศตวรรษที่ 12-18 แสดงถึงความสัมพันธ์ของผู้คนสองฟากฝั่งภูเขาที่ไร้เส้นเขตแดนในอดีต และตัวปราสาทยังเป็นศูนย์กลางของชุมชนโบราณอีกด้วย ลึกลงไปในผืนดินพบโบราณวัตถุซึ่งยังคงขุดค้นอยู่จนถึงปัจจุบัน เช่น ที่บ้านโคกมะกอก ตำบลเขาสามสิบ อำเภอเขาฉกรรจ์ บ้านหนองผักแว่น ตำบลคลองยาง อำเภอตาพระยา เป็นต้น โบราณวัตถุที่พบ เช่น พระพุทธรูป ชิ้นส่วนเทวรูป ลูกปัด ขวานหิน หินบดยา หม้อ ไห ฯลฯ ชี้ให้เห็นการเป็นชุมชนที่มีระบบความเชื่อและวัฒนธรรม ทั้งยังมีความสัมพันธ์กับชุมชนอื่น ๆ มีชุมชนห้วยโสมง อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรีคลองบ้านนา อำเภอบ้านนา และดงละคร ในจังหวัดนครนายก คลองบอน อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี
ที่ตั้งและอาณาเขต[แก้]
สระแก้ว เป็นจังหวัดชายแดนด้านตะวันออกตอนบนของประเทศ ตั้งอยู่ระหว่างเส้นรุ้งที่ 13 องศา 15 ลิปดา ถึง 14 องศา 15 ลิปดาเหนือ กับประมาณเส้นแวงที่ 101 องศา 45 ลิปดา ถึง 103 องศาตะวันออก โดยมีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดใกล้เคียงดังนี้
- ทิศเหนือ ติดกับจังหวัดบุรีรัมย์และจังหวัดนครราชสีมา
- ทิศตะวันออก ติดกับประเทศกัมพูชา
- ทิศใต้ ติดกับจังหวัดจันทบุรี
- ทิศตะวันตก ติดกับจังหวัดปราจีนบุรีและจังหวัดฉะเชิงเทรา
สภาพภูมิประเทศ[แก้]
สภาพทั่วไป พื้นที่จังหวัดสระแก้วโดยรวมเป็นพื้นที่ราบถึงที่ราบสูงและมีภูเขาสูงสลับซับซ้อน มีระดับความสูงจากน้ำทะเล 74 เมตร กล่าวคือ
ด้านเหนือ มีทิวเขาบรรทัดซึ่งเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำบางปะกง มีลักษณะเป็นป่าเขาทึบได้แก่ บริเวณอุทยานแห่งชาติปางสีดาเป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร
ด้านใต้ มีลักษณะเป็นที่ราบเชิงเขา มีสภาพเป็นป่าโปร่ง ส่วนใหญ่ถูกบุกรุกแผ้วถางป่าเพื่อทำการเกษตร ทำให้เกิดสภาพป่าเสื่อมโทรม ตอนกลางมีลักษณะเป็นที่ราบ ได้แก่ อำเภอวังน้ำเย็น อำเภอวังสมบูรณ์ เป็นเขตติดต่อจังหวัดจันทบุรี
ด้านตะวันออก ลักษณะเป็นที่ราบถึงที่ราบสูง และมีสภาพเป็นป่าโปร่ง ทำไร่ ทำนา
ด้านตะวันตก นับตั้งแต่อำเภอวัฒนานคร มีลักษณะเป็นสันปันน้ำและพื้นที่ลาดไปทางอำเภอเมืองสระแก้วและอำเภออรัญประเทศ เข้าเขตราชอาณาจักรกัมพูชา
ลำคลอง[แก้]
ลำคลองสายสำคัญมีดังนี้
- คลองพระปรง มีต้นกำเนิดจากเขาในอำเภอวัฒนานคร แล้วไหลไปรวมกับแม่น้ำหนุมานในเขตอำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี กลายเป็นแม่น้ำปราจีนบุรี ความยาว 180 กิโลเมตร
- คลองพระสะทึง มีต้นกำเนิดจากเขาทึ่งลึ่งในอำเภอมะขาม และเขาตะกวดในอำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ไหลไปลงแม่น้ำพระปรงที่บ้านปากร่วม ตรงแนวแบ่งเขตระหว่างอำเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว กับอำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ความยาว 164 กิโลเมตร
- คลองน้ำใส มีต้นกำเนิดจากเขาตาเลาะและเขาตาง็อกในอำเภอวัฒนานคร และภูเขาในประเทศกัมพูชา ความยาว 74 กิโลเมตร ใช้เป็นเส้นเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา
- คลองพรมโหด มีต้นกำเนิดจากเขาในตำบลช่องกลุ่ม อำเภอวัฒนานคร ไหลไปลงคลองลึก อำเภออรัญประเทศ ที่หลักเขตแดนที่ 50 ความยาว 62 กิโลเมตร ถือเป็นแนวเขตอนุรักษ์ของไทยและกัมพูชา
สภาพภูมิอากาศ[แก้]
สภาพภูมิอากาศแบ่งออกได้เป็น 3 ฤดูกาล
- ฤดูร้อน เริ่มต้นแต่เดือนกุมภาพันธ์-เดือนเมษายน
- ฤดูฝน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-เดือนตุลาคม ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 1,296-1,539 มิลลิเมตร
- ฤดูหนาว ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-เดือนมกราคม อากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้า
อุณหภูมิโดยเฉลี่ย 27.5-28.78 องศา
หน่วยการปกครอง[แก้]
| |
การศึกษา[แก้]
- อุดมศึกษา
- วิทยาลัยชุมชนสระแก้ว
- มหาวิทยาลัยบูรพา วิทยาเขตสระแก้ว
- วิทยาลัยโพธิวิชชาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จังหวัดสระแก้ว
- มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ สระแก้ว
- มหาวิทยาลัยปทุมธานี (ศูนย์สระแก้ว ตั้งอยู่ที่โรงเรียนไฮเทค-เทคโนโลยี อำเภอเมืองสระแก้ว) ศูนย์สระแก้ว
- ระดับอาชีวศึกษา
- วิทยาลัยเทคนิคสระแก้ว อำเภอวัฒนานคร
- วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสระแก้ว อำเภออรัญประเทศ
- วิทยาลัยการอาชีพวังน้ำเย็น อำเภอวังน้ำเย็น
- โรงเรียนไฮเทค-เทคโนโลยี สถาบันเอกชน ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าเกษม อำเภอเมืองสระแก้ว
- โรงเรียนเทคโนโลยีสระแก้ว สถาบันเอกชน ตั้งอยู่ที่ตำบลศาลาลำดวน อำเภอเมืองสระแก้ว
- โรงเรียน
การสาธารณสุข[แก้]
ด้านการสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว ประกอบไปด้วย
- โรงพยาบาลรัฐบาล 10 แห่ง (โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงกลาโหม 1 แห่ง)
- โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว (โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชแห่งแรก) อำเภอเมืองสระแก้ว
- โรงพยาบาลคลองหาด
- โรงพยาบาลตาพระยา
- โรงพยาบาลวังน้ำเย็น
- โรงพยาบาลวัฒนานคร
- โรงพยาบาลจิตเวชสระแก้วราชนครินทร์ อำเภอวัฒนานคร
- โรงพยาบาลอรัญประเทศ
- โรงพยาบาลเขาฉกรรจ์
- โรงพยาบาลวังสมบูรณ์
- โรงพยาบาลโคกสูง
- โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงกลาโหม 1 แห่ง
- โรงพยาบาลค่ายสุรสิงหนาท อำเภออรัญประเทศ
- สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด 1 แห่ง
- สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ 9 แห่ง
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 110 แห่ง
- สถานีกาชาด 1 แห่ง
- สถานีกาชาดที่ 6 อรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว
อุทยานแห่งชาติ[แก้]
- อุทยานแห่งชาติปางสีดา มรดกโลก
- อุทยานแห่งชาติตาพระยา มรดกโลก
ปราสาทหิน[แก้]
- ปราสาทหินสด๊กก๊อกธม (ปราสาทอารยธรรมเขมร ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก ตั้งอยู่ที่อำเภอโคกสูง)
สำนักศิลปากรที่ 5 ปราจีนบุรี ได้ดำเนินงานและประสานงานกับจังหวัดสระแก้ว บริหารจัดการและปรับภูมิทัศน์ เป็นอุทยานประวัติศาสตร์แห่งใหม่ (อุทยานประวัติศาสตร์สด๊กก๊อกธม ; SADOK KOK THOM Historical Park) ซึ่งมีมติที่ประชุมแล้ว เมื่อ 7 เมษายน 2559
สถานีตำรวจ[แก้]
จังหวัดสระแก้วมีสถานีตำรวจทั้งสิ้น 17 แห่ง
|
|
ข้อมูลการเดินทาง[แก้]
รถยนต์[แก้]
จากกรุงเทพมหานคร
- ใช้ถนนพหลโยธิน หรือถนนวิภาวดีรังสิตแล้วเลี้ยวเข้าถนนรังสิต-นครนายก เข้านครนายกใช้ถนนสุวรรณศร ( ทางหลวงหมายเลข 33 ) ถึงเขตอำเภอเมืองปราจีนบุรี อำเภอประจันตคาม
อำเภอกบินทร์บุรี ถึงตัวจังหวัดสระแก้ว ระยะทางประมาณ 214 กิโลเมตร
- ใช้ถนนพหลโยธิน แล้วเลี้ยวขวาที่ทางแยกหินกอง ประมาณกิโลเมตรที่ 90 แยกขวาใช้ถนนสุวรรณศร ผ่านอำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก ถึงนครนายก ใช้ถนนสุวรรณศร ( ทางหลวงหมายเลข 33) ถึงเขตอำเภอเมืองปราจีนบุรี อำเภอประจันตคาม อำเภอกบินทร์บุรี ถึงตัวจังหวัดสระแก้ว ระยะทางประมาณ 245 กิโลเมตร
- ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 ผ่านเขตมีนบุรี เขตหนองจอก ไปทางจังหวัดฉะเชิงเทรา จากนั้นให้ใช้เส้นทางไปอำเภอพนมสารคาม พอถึงประมาณกิโลเมตรที่ 35 ให้เลี้ยวขวาไปทางอำเภอกบินทร์บุรี โดยใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 พอถึงประมาณกิโลเมตรที่ 95 ให้เลี้ยวขวาอีกครั้ง เข้าถนนสุวรรณศร ไปจนถึงตัวจังหวัดสระแก้ว ระยะทางประมาณ 210 กิโลเมตร
- ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 ผ่านเขตมีนบุรี เขตหนองจอก ไปจังหวัดฉะเชิงเทรา จากนั้นให้ใช้เส้นทางไปอำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา ผ่านศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน จะพบทางแยกเขาหินซ้อน แยกขวาไปจังหวัดสระแก้วไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 359 อีกประมาณ 65 กิโลเมตรถึงตัวจังหวัดสระแก้ว
จากนครราชสีมา
- ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 ไปทางอำเภอปักธงชัย อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ผ่านอำเภอนาดี อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี แล้วเลี้ยวซ้ายไปตามถนนสุวรรณศร
ถึงตัวจังหวัดสระแก้ว ระยะทางประมาณ 174 กิโลเมตร
จากจันทบุรี
- ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 317 ผ่านอำเภอมะขาม อำเภอโป่งน้ำร้อน อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี เข้าเขตอำเภอวังสมบูรณ์ จังหวัดสระแก้ว ผ่านอำเภอวังน้ำเย็น อำเภอเขาฉกรรจ์
ถึงตัวจังหวัดสระแก้ว ระยะทางประมาณ 258 กิโลเมตร
จากบุรีรัมย์
- ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 218 อำเภอนางรอง เข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 348 ผ่านอำเภอปะคำ อำเภอโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์ เข้าเขตอำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว
ผ่านอำเภอโคกสูง อำเภออรัญประเทศ ไปตามถนนสุวรรณศร ผ่านอำเภอวัฒนานคร ถึงตัวจังหวัดสระแก้ว ระยะทางประมาณ 620 กิโลเมตร
รถโดยสารประจำทาง[แก้]
1) สาย 921 (กรุงเทพฯ - องครักษ์ - อรัญประเทศ) เส้นทางผ่านอำเภอเมืองสระแก้ว - ผ่านอำเภอวัฒนานคร - สถานีปลายทางอำเภออรัญประเทศ
2) สาย 921 (กรุงเทพฯ - องครักษ์ - อรัญประเทศ - โรงเกลือ) เส้นทางผ่านอำเภอเมืองสระแก้ว - ผ่านอำเภอวัฒนานคร - ผ่านอำเภออรัญประเทศ - สถานีปลายทางตลาดโรงเกลือ
3) สาย 999 (กรุงเทพฯ - องครักษ์ - อรัญประเทศ) เส้นทางผ่านอำเภอเมืองสระแก้ว - ผ่านอำเภอวัฒนานคร - สถานีปลายทางอำเภออรัญประเทศ
4) สาย 60 (กรุงเทพฯ - อรัญประเทศ) เส้นทางผ่านอำเภอเมืองสระแก้ว - ผ่านอำเภอวัฒนานคร - สถานีปลายทางอำเภออรัญประเทศ
5) สาย 60 (กรุงเทพฯ - อรัญประเทศ - โรงเกลือ) เส้นทางผ่านอำเภอเมืองสระแก้ว - ผ่านอำเภอวัฒนานคร - ผ่านอำเภออรัญประเทศ - สถานีปลายทางตลาดโรงเกลือ
6) รถเหลือง (Yellow Bus) (สายระยอง - พัทยา - มุกดาหาร - ยโสธร) เส้นทางผ่านอำเภอเมืองสระแก้ว ผ่านอำเภออรัญประเทศ
7) รถเหลือง (Yellow Bus) (สายระยอง - พัทยา - บุรีรัมย์ - ร้อยเอ็ด - มุกดาหาร) เส้นทางผ่านอำเภอเมืองสระแก้ว ผ่านอำเภออรัญประเทศ
8) รถเหลือง (Yellow Bus) (สายระยอง - พัทยา - อรัญประเทศ - นางรอง - สุรินทร์) เส้นทางผ่านอำเภอเมืองสระแก้ว ผ่านอำเภออรัญประเทศ
9) รถเหลือง (Yellow Bus) (สายระยอง - พัทยา - อรัญประเทศ - นางรอง - บุรีรัมย์ - สตึก) เส้นทางผ่านอำเภอเมืองสระแก้ว ผ่านอำเภออรัญประเทศ
10) รถเหลือง (Yellow Bus) (สายระยอง - ก.ม. 10 - บ่อวิน - ยโสธร - อำนาจเจริญ - มุกดาหาร) เส้นทางผ่านอำเภอเมืองสระแก้ว ผ่านอำเภออรัญประเทศ
11) รถเหลือง (Yellow Bus) (สายระยอง - ก.ม. 10 - บ่อวิน - ร้อยเอ็ด - บุรีรัมย์ - มุกดาหาร) เส้นทางผ่านอำเภอเมืองสระแก้ว ผ่านอำเภออรัญประเทศ
12) สาย 522 (บุรีรัมย์ - จันทบุรี) เส้นทางผ่านอำเภอตาพระยา - อำเภออรัญประเทศ - อำเภอวัฒนาคร - อำเภอเมืองสระแก้ว - อำเภอเขาฉกรรจ์ - ผ่านอำเภอวังน้ำเย็น
13) สาย 340 (นครราชสีมา - จันทบุรี) เส้นทางผ่านอำเภอเมืองสระแก้ว - อำเภอเขาฉกรรจ์ - ผ่านอำเภอวังน้ำเย็น - ผ่านอำเภอวังสมบูรณ์
14) สาย 341 (สระบุรี - จันทบุรี) เส้นทางผ่านอำเภอเมืองสระแก้ว - อำเภอเขาฉกรรจ์ - ผ่านอำเภอวังน้ำเย็น - ผ่านอำเภอวังสมบูรณ์
15) สาย 309 (ฉะเชิงเทรา - อรัญประเทศ) เส้นทางผ่านอำเภอเมืองสระแก้ว - อำเภอวัฒนานคร - สถานีปลายทางอรัญประเทศ
16) สาย 309 (ฉะเชิงเทรา - เขาหินซ้อน - ตลาดโรงเกลือ) เส้นทางผ่านอำเภอเมืองสระแก้ว - อำเภอวัฒนานคร - อำเภออรัญประเทศ - สถานีปลายทางตลาดโรงเกลือ
17) สาย 385 (ชลบุรี - ตลาดโรงเกลือ) เส้นทางผ่านอำเภอเมืองสระแก้ว - อำเภอวัฒนานคร - อำเภออรัญประเทศ - สถานีปลายทางตลาดโรงเกลือ
18) สาย 390 (ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ - ตลาดโรงเกลือ)
19) สาย 638 (พิษณุโลก - ตลาดโรงเกลือ) เส้นทางผ่าน พิษณุโลก - มหาวิทยาลัยนเรศวร - วชิรบารมี (พิจิตร) - นครสวรรค์ - นวนคร - รังสิต - รามอินทรา กม.3 - ฉะเชิงเทรา - พนมสารคาม (ฉะเชิงเทรา) - เขาหินซ้อน - สระแก้ว - อำเภอวัฒนานคร - อำเภออรัญประเทศ - ตลาดโรงเกลือ
20) สาย 638 (แม่สอด - ตลาดโรงเกลือ) เส้นทางผ่าน แม่สอด (ตาก) - ตาก - วังเจ้า (ตาก) - กำแพงเพชร - คลองขลุง (กำแพงเพชร) - สลกบาตร (กำแพงเพชร) - นครสวรรค์ - นวนคร - รังสิต - รามอินทรา กม.3 - ฉะเชิงเทรา - พนมสารคาม (ฉะเชิงเทรา) - เขาหินซ้อน - สระแก้ว - อำเภอวัฒนานคร - อำเภออรัญประเทศ - ตลาดโรงเกลือ
รถไฟ[แก้]
รถไฟจากกรุงเทพมหานคร - อรัญประเทศ
- จากสถานีกรุงเทพมหานคร (เวลาประมาณ 05.55 น.) ถึงสถานีสระแก้ว (เวลาประมาณ 10:33) ถึงอรัญประเทศ (เวลาประมาณ 11.35 น.)
- จากสถานีกรุงเทพมหานคร (เวลาประมาณ 13.05 น.) ถึงสถานีสระแก้ว (เวลาประมาณ 16:49) ถึงอรัญประเทศ (เวลาประมาณ 17.35 น.)
- จากสถานีอรัญประเทศ (เวลาประมาณ 06.40 น.) ถึงสถานีสระแก้ว (เวลาประมาณ 07:32) ถึงกรุงเทพมหานคร (เวลาประมาณ 12.05 น.)
- จากสถานีอรัญประเทศ (เวลาประมาณ 13.55 น.) ถึงสถานีสระแก้ว (เวลาประมาณ 14:49) ถึงกรุงเทพมหานคร (เวลาประมาณ 19.55 น.)
บุคคลที่มีชื่อเสียง[แก้]
นักการเมือง[แก้]
- เสนาะ เทียนทอง
- ฐานิสร์ เทียนทอง อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
- สรวงศ์ เทียนทอง อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข
- วิทยา เทียนทอง
- อัศวัชร์ อภัยวงศ์
นักกีฬา[แก้]
- พรสวรรค์ ป.ประมุข นักมวยสากล
- สุธิยา จิวเฉลิมมิตร นักกีฬายิงเป้าบิน
- วรรณา บัวแก้ว นักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย
- กิตติคุณ ศรีอุทธวงศ์ นักกีฬาวอลเลย์บอลชายทีมชาติไทย
- ขวัญชัย เฟื่องประกอบ นักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทย
- วิสุทธิ์ ชูวัฒนะ นักมวย
- ฉัตร์ชัย บุตรดี นักมวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทย
- ประวัติ วะโฮรัมย์ นักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย
นักร้อง/นักดนตรี[แก้]
- เพลิน พรหมแดน ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยลูกทุ่ง)
- น้ำฝน ภักดี ครูสอนบุคลิกภาพสถาบันพัฒนาบุคลิกภาพ จอห์น โรเบิร์ต ไทยแลนด์, นักร้องนำวงโมโนโทน, รองอันดับสอง เคพีเอ็น อวอร์ด ปี52, ผู้เข้าแข่งขัน เดอะวอยซ์ 4
- โกวิท กว้างเคน (เด่น) แชมป์ดาวรุ่งลูกทุ่งไทยแลนด์ ปี 2 นักร้องค่ายอาร์สยาม
- เบญจวรรณ โภคทรัพย์ (หนูเล็ก บลูเบอร์รี่ อาร์-สยาม) นักร้องค่ายอาร์สยาม
นักแสดง/นางแบบ/นางงาม[แก้]
- บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ นักแสดง
- เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ นักแสดง
- แอนนา ชวนชื่น นักแสดงตลก
- สุรศักดิ์ โชติทินวัฒน์ (โอ๊ต) นักแสดง
- ธารา ทิพา นักแสดง, นายแบบ
- กรุณา บัวคำศรี ผู้ประกาศข่าว สถานีโทรทัศน์ช่อง 3
- นาราริน พิมพิสาร (ไอซ์) มิสแกรนด์สระแก้ว, ผู้เข้าประกวดมิสทัวริซึมควีนออฟเดอะเยียร์อินเตอร์เนชันเนล 2017 (การประกวดระดับนานาชาติ)
Moonfleet @นครวัด (Angkor Wat) จังหวัดเสียมเรียบ (Siem Reap Province) ราชอาณาจักรกัมพูชา ( Kingdom of Cambodia).
บันทึกการเดินทาง การไปเยือน นครวัด (Angkor Wat) จังหวัดเสียมเรียบ (Siem Reap Province) ราชอาณาจักรกัมพูชา ( Kingdom of Cambodia)
ในช่วงเวลาระหว่าง วันเสาร์ ที่ 20 ตุลาคม 2561 ถึง 23 ตุลาคม 2561.


ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น