20.10.2561 ถนน.คนเดิน ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว. # 6.

20.10.2561

ไปเดินชม ถนน.คนเดิน ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว # 6

หลังจากที่คณะฯ เข้าพักแรม ณ.โรงแรม โรงแรม สเตชัน วัน (Station ONE Hotel) ถนน.ธนะวิถี ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว แล้ว ยามค่ำคืนจึงออกเดินสำรวจบริเวณโดยรอบโรงแรมฯ 

เนื่องจากขณะนั้นเป็นเวลาเกือบ 3 ทุ่ม (21.00 น) พนักงานโรงแรมได้ให้ข้อมุลว่า ถนนคนเดิน / ตลาดปิดแล้ว แต่ ก็ยังทำให้เห็นร้านค้าต่างๆที่กำลังทะยอยปิดร้าน และ บางร้านก็ยังเปิดอยู่บ้าง ครับ. 

จึงไม่อาจบอกได้ว่า ตลาดนัด / ถนน.คนเดินแห่งนี้ มีความคึกคัก หรือ เศรษฐกิจเป็นอย่างไร ครับ.

บันทึกการเดินทางการเดินทางไปเยือน นครวัด (Angkor Wat)  
จังหวัดเสียมเรียบ (Siem Reap Province) ราชอาณาจักรกัมพูชา ( Kingdom of Cambodia
ในช่วงเวลาระหว่าง วันเสาร์ ที่ 20 ตุลาคม - 24 ตุลาคม 2561



 01. ณ.โรงแรม โรงแรม สเตชัน วัน (Station ONE Hotel) ถนน.ธนะวิถี ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว.




 02. ตลาดนัด / ถนน.คนเดิน อยู่ใกล้ โรงแรม สเตชัน วัน (Station ONE Hotel) ถนน.ธนะวิถี ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว.

 03. ตลาดนัด / ถนน.คนเดิน อยู่ใกล้ โรงแรม สเตชัน วัน (Station ONE Hotel) ถนน.ธนะวิถี ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว.


 04.ตลาดนัด / ถนน.คนเดิน อยู่ใกล้ โรงแรม สเตชัน วัน (Station ONE Hotel) ถนน.ธนะวิถี ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว.


 05. ตลาดนัด / ถนน.คนเดิน อยู่ใกล้ โรงแรม สเตชัน วัน (Station ONE Hotel) ถนน.ธนะวิถี ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว.


 06.ตลาดนัด / ถนน.คนเดิน อยู่ใกล้ โรงแรม สเตชัน วัน (Station ONE Hotel) ถนน.ธนะวิถี ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว.


 07.ตลาดนัด / ถนน.คนเดิน อยู่ใกล้ โรงแรม สเตชัน วัน (Station ONE Hotel) ถนน.ธนะวิถี ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว.


 08.ตลาดนัด / ถนน.คนเดิน อยู่ใกล้ โรงแรม สเตชัน วัน (Station ONE Hotel) ถนน.ธนะวิถี ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว.


 09.ตลาดนัด / ถนน.คนเดิน อยู่ใกล้ โรงแรม สเตชัน วัน (Station ONE Hotel) ถนน.ธนะวิถี ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว.


 10. ตลาดนัด / ถนน.คนเดิน อยู่ใกล้ โรงแรม สเตชัน วัน (Station ONE Hotel) ถนน.ธนะวิถี ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว.


 11.ตลาดนัด / ถนน.คนเดิน อยู่ใกล้ โรงแรม สเตชัน วัน (Station ONE Hotel) ถนน.ธนะวิถี ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว.


 12. ตลาดนัด / ถนน.คนเดิน อยู่ใกล้ โรงแรม สเตชัน วัน (Station ONE Hotel) ถนน.ธนะวิถี ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว.


 13. ตลาดนัด / ถนน.คนเดิน อยู่ใกล้ โรงแรม สเตชัน วัน (Station ONE Hotel) ถนน.ธนะวิถี ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว.

 14. ตลาดนัด / ถนน.คนเดิน อยู่ใกล้ โรงแรม สเตชัน วัน (Station ONE Hotel) ถนน.ธนะวิถี ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว.


 15. ตลาดนัด / ถนน.คนเดิน อยู่ใกล้ โรงแรม สเตชัน วัน (Station ONE Hotel) ถนน.ธนะวิถี ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว.


 16. ตลาดนัด / ถนน.คนเดิน อยู่ใกล้ โรงแรม สเตชัน วัน (Station ONE Hotel) ถนน.ธนะวิถี ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว.


 17. ตลาดนัด / ถนน.คนเดิน อยู่ใกล้ โรงแรม สเตชัน วัน (Station ONE Hotel) ถนน.ธนะวิถี ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว.


 18. ตลาดนัด / ถนน.คนเดิน อยู่ใกล้ โรงแรม สเตชัน วัน (Station ONE Hotel) ถนน.ธนะวิถี ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว.



 19.


 20.

 21.

22. ณ.โรงแรม โรงแรม สเตชัน วัน (Station ONE Hotel) ถนน.ธนะวิถี ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว.

--------------------------------------------------------------------------

ข้อมูล และ ความรู้ เพิ่มเติม.


สุดแดนสยามบูรพา ย่านการค้าอินโดจีน
ชนท้องถิ่นห้าชาติ พระสยามเทวาธิราชศักดิ์สิทธิ์
แหล่งผลิตผ้าทอมือ เลื่องชื่อแตงแคนตาลูป



อำเภออรัญประเทศ


จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ไบยังการนำทางไปยังการค้นหา
อำเภออรัญประเทศ
แผนที่จังหวัดสระแก้ว เน้นอำเภออรัญประเทศ
สุดแดนสยามบูรพา ย่านการค้าอินโดจีน
ชนท้องถิ่นห้าชาติ พระสยามเทวาธิราชศักดิ์สิทธิ์
แหล่งผลิตผ้าทอมือ เลื่องชื่อแตงแคนตาลูป
ข้อมูลทั่วไป
อักษรไทยอำเภออรัญประเทศ
อักษรโรมันAmphoe Aranyaprathet
จังหวัดสระแก้ว
ข้อมูลสถิติ
พื้นที่821.265 ตร.กม.
ประชากร89,660 คน (พ.ศ. 2560)
ความหนาแน่น109.17 คน/ตร.กม.
รหัสทางภูมิศาสตร์2706
รหัสไปรษณีย์27120
ที่ว่าการอำเภอ
ที่ตั้งที่ว่าการอำเภออรัญประเทศ หมู่ที่ 2 ถนนธนะวิถี ตำบลบ้านใหม่หนองไทร อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว 27120
พิกัด13°48′53″N 102°4′19″E
หมายเลขโทรศัพท์0 3723 1016
หมายเลขโทรสาร0 3723 1016

สารานุกรมประเทศไทย ส่วนหนึ่งของสารานุกรมประเทศไทย
อรัญประเทศ เป็นอำเภอชายแดนทางด้านตะวันออกของประเทศไทย มีแนวชายแดนติดต่อกับประเทศกัมพูชา เดิมเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดกบินทร์บุรี ภายหลังถูกยุบรวมกับจังหวัดปราจีนบุรี (เมื่อวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2468) ปัจจุบันเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดสระแก้วซึ่งเป็นจังหวัดที่ตั้งขึ้นมาใหม่ภายหลัง (เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2536)

ที่ตั้งและอาณาเขต[แก้]

อำเภออรัญประเทศตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของจังหวัด มีอาณาเขตติดต่อกับเขตการปกครองข้างเคียงดังต่อไปนี้

ประวัติ[แก้]

อำเภออรัญประเทศ เดิมชื่อ บ้านหินแร่ ได้รับการยกฐานะขึ้นเป็น เมืองอรัญประเทศ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) เมื่อ พ.ศ. 2393 ได้รับเปลี่ยนแปลงฐานะเป็นอำเภอในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่ 7) ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยระเบียบบริหารราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2476 มีขุนเหี้ยมใจหาญเป็นนายอำเภอ โดยยุบวัฒนานครเดิมชื่อบ้านแขยกเป็นกิ่งอำเภอขึ้นกับอำเภออรัญประเทศ
เดิมเชื่อกันว่าแท้จริงแล้วชาวอรัญประเทศเป็นกลุ่มไทยย้อชาวเวียงจันทน์หรือท่าอุเทนที่อพยพมา หลังจากเจ้าพระยาราชสุภาวดี (สิงห์ สิงหเสนี) ยกทัพไปตีเมืองเวียงจันทน์เพื่อปราบกบฏเจ้าอนุวงศ์ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยชาวย้อได้อพยพมาอยู่ที่ดงอรัญ เขตบ้านสวาย (ต่อมายกขึ้นเป็นเมืองศรีโสภณ) ขณะนั้นกัมพูชาเป็นประเทศราชของสยาม ภายหลังโยกย้ายเข้ามาในเขตอำเภออรัญประเทศ ที่ตั้งถิ่นฐานส่วนใหญ่จะอยู่ในเขตตำบลคลองน้ำใส ตำบลเมืองไผ่ ตำบลท่าข้าม ตำบลผ่านศึก และในเขตเทศบาลเมืองอรัญญประเทศ ยกเว้นในตลาดอำเภออรัญประเทศ
พื้นที่อำเภออรัญประเทศมีถนนโบราณสายหนึ่งตัดผ่านจากทิศตะวันออกไปทิศตะวันตก ทางทิศเหนือหมู่บ้านอรัญประมาณ 400 เมตร มีคนเล่าต่อกันมาว่าเจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) เป็นผู้สร้างไว้ ต่อมาจึงมีผู้ตั้งชื่อว่า ถนนเจ้าพระยาบดินทรเดชา สันนิษฐานว่า สถานีอรัญประเทศ เป็นจุดปลายทางของรถไฟสายตะวันออกซึ่งสร้างลงบน “ฉนวนไทย” หรือทางราบที่ใช้ติดต่อระหว่างที่ราบลุ่มเจ้าพระยากับที่ราบลุ่มทะเลสาบเขมรมาแต่โบราณ เส้นทางรถไฟจากปราจีนบุรีจนถึงอรัญประเทศน่าจะซ้อนทับลงบนทางเดินบกโบราณจากภาคกลางของไทยไปสู่ที่ราบลุ่มทะเลสาบของเขมรที่เรียกกันว่า ฉนวนไทย มีแหล่งโบราณคดีใหญ่น้อยกระจายตัวกันตามลำน้ำอันเป็นต้นสายแม่น้ำบางปะกงคือแควหนุมานกับแควพระปรง และยังมีด่านพระจารึก ซึ่งปรากฏชื่อในเอกสารพงศาวดารสมัยอยุธยาว่าเป็นจุดสำคัญทางประวัติศาสตร์บนเส้นทางสายนี้ด้วย
ดังนั้น เส้นทางรถไฟจากชายแดนไทย-กัมพูชาที่มีต่อไปจนถึงศรีโสภณ พระตะบอง จึงน่าจะสร้างลงบนทางเดินโบราณนี้ด้วยเช่นกัน เจ้าพระยาบดินทรเดชาคงสร้างขึ้นเมื่อคราวยกทัพกลับจากตีเขมรและญวน
อำเภออรัญประเทศได้ยกฐานะขึ้นจากกิ่งอำเภออรัญประเทศในปี พ.ศ. 2456 อาชีพหลักของคนในอำเภออรัญประเทศแต่เดิมได้แก่ การค้าขายและเกษตรกรรม โดยในอดีตนิยมปลูกข้าว และมันสำปะหลัง ปัจจุบันนิยมปลูกอ้อยเพื่อส่งโรงงาน และเป็นแหล่งส่งเสริมการปลูกแคนตาลูปเป็นแห่งแรกในประเทศไทย
เมื่อ พ.ศ. 2473 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จนิวัติพระนครหลังจากเสด็จประพาสไซ่ง่อน เวียดนาม และอินโดนีเซีย โดยรถยนต์พระที่นั่งถึงอำเภออรัญประเทศ ได้ประทับบนสถานีรถไฟอรัญประเทศประมาณ 30 นาที แล้วจึงเสด็จขึ้นประทับรถไฟขบวนพิเศษจากอรัญประเทศเข้าพระนคร ในครั้งยังเป็นการปกครองในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ประชาชนที่มาเฝ้ารับเสด็จจึงมีเฉพาะชาวอรัญเท่านั้น เนื่องจากการคมนาคมยังไม่สะดวก การติดต่อข่าวสารยังล่าช้า
พ.ศ. 2512 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จมาถวายผ้าพระกฐินส่วนพระองค์ ณ วัดหลวงอรัญญ์ อำเภออรัญประเทศ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2512 เสด็จพระราชดำเนินโดยเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งจากพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต จนกระทั่งเวลา 12.00 น. โดยประมาณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากค่ายสุรสิงหนาทถึงยังหน้าพระอุโบสถ ทรงถวายผ้าพระกฐิน มีประชาชนมาเฝ้ารับเสด็จชมพระบารมีนับหมื่น หลังจากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จต่อไปยังนิคมสร้างตนเองคลองน้ำใสในเวลาประมาณ 13.30 น.

ลักษณะภูมิอากาศ[แก้]

สภาพภูมิอากาศแบ่งออกได้เป็น 3 ฤดูกาล
  • ฤดูร้อน เริ่มต้นแต่เดือนกุมภาพันธ์-เดือนเมษายน
  • ฤดูฝน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-เดือนตุลาคม
  • ฤดูหนาว ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-เดือนมกราคม
อุณหภูมิโดยเฉลี่ย 27.5-28.78 องศาเซลเซียส

การแบ่งเขตการปกครอง[แก้]

การปกครองส่วนภูมิภาค[แก้]

อำเภออรัญประเทศแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 13 ตำบล 114 หมู่บ้าน
1.อรัญประเทศ(Aranyaprathet)8.บ้านใหม่หนองไทร(Ban Mai Nong Sai)
2.เมืองไผ่(Mueang Phai)9.ผ่านศึก(Phan Suek)
3.หันทราย(Han Sai)10.หนองสังข์(Nong Sang)
4.คลองน้ำใส(Khlong Nam Sai)11.คลองทับจันทร์(Khlong Thap Chan)
5.ท่าข้าม(Tha Kham)12.ฟากห้วย(Fak Huai)
6.ป่าไร่(Pa Rai)13.บ้านด่าน(Ban Dan)
7.ทับพริก(Thap Phrik)

การปกครองส่วนท้องถิ่น[แก้]

ท้องที่อำเภออรัญประเทศประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 13 แห่ง ได้แก่
  • เทศบาลเมืองอรัญญประเทศ[1] ครอบคลุมพื้นที่ตำบลอรัญประเทศทั้งตำบล
  • เทศบาลตำบลฟากห้วย ครอบคลุมพื้นที่ตำบลฟากห้วยทั้งตำบล
  • เทศบาลตำบลบ้านด่าน ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบ้านด่านทั้งตำบล
  • เทศบาลตำบลป่าไร่ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลป่าไร่ทั้งตำบล
  • เทศบาลตำบลบ้านใหม่หนองไทร ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบ้านใหม่หนองไทรทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลเมืองไผ่ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลเมืองไผ่ทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลหันทราย ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหันทรายทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลคลองน้ำใส ครอบคลุมพื้นที่ตำบลคลองน้ำใสทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลท่าข้าม ครอบคลุมพื้นที่ตำบลท่าข้ามทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลทับพริก ครอบคลุมพื้นที่ตำบลทับพริกทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลผ่านศึก ครอบคลุมพื้นที่ตำบลผ่านศึกทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลหนองสังข์ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหนองสังข์ทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลคลองทับจันทร์ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลคลองทับจันทร์ทั้งตำบล

แหล่งท่องเที่ยว[แก้]


ด่านอรัญประเทศ
  • ปราสาทเขาน้อย เป็นโบราณสถานของชาติ ปราสาทเขาน้อยสีชมพูแห่งนี้ ยังปรากฏอยู่ในภาพสัญลักษณ์ประจำจังหวัดสระแก้วอีกด้วย
  • ปราสาทเมืองไผ่ โบราณสถานที่ก่อสร้างด้วยอิฐศิลาแลง ปัจจุบันพังทลายจนไม่มีเค้าโครงเดิมให้เห็น นับเป็นโบราณสถานที่เก่าแก่และทรงคุณค่าอีกแห่งหนึ่ง
  • เนินโบราณสถานบ้านหนองคู
  • โบราณสถานเขารัง
  • วัดชนะไชยศรี
  • ศิลาจารึกบ้านกุดแต้
  • ตลาดอินโดจีนรถโดยสารประจำทาง บริษัท ขนส่ง จำกัด มีบริการรถโดยสารประจำทางทั้งรถธรรมดาและรถปรับอากาศ ออกจากสถานีขนส่งหมอชิต ถนนกำแพงเพชร 2 ทุกวัน สอบถามได้ที่ โทร 0-2936-2852-66 ต่อ 311 ท่ารถปลายทางอยู่หน้าตลาดอินโดจีน
  • พระสยามเทวาธิราช ตั้งอยู่บริเวณใกล้ที่ทำการเทศบาลอรัญประเทศ ติดกับสถานีตำรวจ สร้างขึ้นมานานกว่า 20 ปี เป็นที่เคารพนับถือของชาวอรัญประเทศ หลายคนเชื่อว่าเป็นผู้ปกปักษ์รักษาเมืองอรัญให้รอดพ้นจากภัยพิบัติร้ายแรง
  • ตลาดชายแดนบ้านคลองลึก (ตลาดโรงเกลือ) ตลาดชายแดนไทย-กัมพูชา ที่มีสินค้าจำหน่ายมากมาย เช่น เสื้อผ้า เครื่องทองเหลือง กระเบื้องถ้วยชามต่าง ๆ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักสาน เป็นต้น
  • วัดอนุบรรพต สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 เป็นวัดที่มีอุโบสถสวยงามและลักษณะแปลกกว่าอุโบสถทั่วไป คือสร้างเป็นฐานรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส หลังคาทรงไทยยอดแหลมสูง ตกแต่งสวยงาม
  • ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ศาลหลักเมืองที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2375 เป็นที่เคารพสักการะของประชาชนในจังหวัดสระแก้ว
  • ประตูชัยอรัญประเทศ สร้างเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2482 โดยกรมยุทธโยธาทหารบกได้ระดมกำลังทหารช่างทำการสร้างทั้งกลางวันและและกลางคืนตลอด 24 ชั่วโมง แล้วเสร็จภายใน 29 วัน เสร็จเมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2482
  • ประตูทางผ่านเข้าออกไทย-กัมพูชา ที่ตั้งอยู่ระหว่างพรมแดนไทย-กัมพูชา ติดกับเมืองปอยเปต ประตูแห่งนี้ถูกปิดมาตั้งแต่ พ.ศ. 2518 ปัจจุบันได้เปิดพรมแดน ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2541 ทำให้ประชาชนชาวไทยและกัมพูชาเดินผ่านเข้าออกหากันได้
  • สถานีรถไฟอรัญประเทศ สร้างเสร็จเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2469 เป็นสถานีแห่งประวัติศาสตร์ของท้องถิ่นเป็นสถานที่ร่วมสมัยในยุครถจักรไอน้ำเฟื่องฟูจนถึงรถจักรหัวลากดีเซลหลักฐานที่ยังคงหลงเหลือคือหอเหล็กเติมน้ำให้หัวรถจักรในบริเวณใกล้เคียงกันไม่ไกลนัก ทางรถไฟไทยสร้างบนเส้นทางสมัยโบราณ ทางสายกรุงเทพ-อรัญประเทศ ในสมัยรัชกาลที่ 5 รัฐบาลสยามได้ตัดทางรถไฟเชื่อมระหว่างกรุงเทพฯกับฉะเชิงเทรา (แปดริ้ว) ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 6 จึงได้ขยายเส้นทางไปทางตะวันออกจนเชื่อมกับรถไฟของกัมพูชาหรืออินโดจีนฝรั่งเศสในขณะนั้นที่ ต.คลองลึก อ.อรัญประเทศ
เส้นทางรถไฟสายตะวันออกยังคงใช้แนวทางคมนาคมเก่าคือแม่น้ำลำคลองที่มีอยู่ก่อนหน้าเป็นสำคัญ
ทางรถไฟแยกออกจากทางสายหลักที่สถานีจิตรลดาไปทางทิศตะวันออกโดยล้อกับแนวคลองมหานาคซึ่งอยู่ทางใต้ คลองมหานาคนี้ขุดขึ้นสมัยรัชกาลที่ 1 แยกจากคูเมืองตรงวัดสระเกศเพื่อใช้เดินทางติดต่อกับชุมชนทางตะวันออกของกรุงเทพ ต่อมาสมัยรัชกาลที่ 3 ได้ขุดต่อออกไปเชื่อมกับแม่น้ำบางปะกงที่ประตูน้ำท่าไข่ ฉะเชิงเทราเพื่อการส่งกำลังไปทำสงครามด้านตะวันออกคือเขมรและญวนในสมัยนั้น เรียกกันต่อมาว่าคลองแสนแสบ
จากคลองตัน ทางรถไฟข้ามคลองแสนแสบซึ่งหันเบนขึ้นไปทางเหนือ จากนี้ทางรถไฟก็จะเปลี่ยนมาใช้แนวคู่ขนานกับคลองประเวศบุรีรมย์ตรงบริเวณบ้านทับช้าง คลองประเวศฯขุดขึ้นในปี พ.ศ. 2423 แยกจากคลองพระโขนงไปทางตะวันออกเป็นเส้นตรงถึงแม่น้ำบางปะกงใต้เมืองฉะเชิงเทราเล็กน้อย ระหว่างที่ทางรถไฟใช้แนวคลองประเวศไปถึงฉะเชิงเทราก็จะข้ามคลองสำคัญหลายแห่งซึ่งไหลจากเหนือลงใต้อันเป็นคลองที่ระบายน้ำจากที่ลุ่มต่ำฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยาลงสู่ทะเลมีทั้งคลองธรรมชาติและคลองขุด เช่น คลองหลวงแพ่ง คลองอุดมชลจร คลองเปรง คลองแขวงกลั่น คลองบางพระ เข้าสู่ตัวเมืองฉะเชิงเทรา ซึ่งในสมัยแรกสร้างนั้นรางรถไฟได้ไปสุดทางที่สถานีแปดริ้วริมแม่น้ำบางปะกง
ทางแยกไปอรัญประเทศคือรางรถไฟหัวมุมเลี้ยวขึ้นทิศเหนือเพื่อตามแนวแม่น้ำบางปะกงขึ้นไปแต่ใช้การตัดทางตรงผ่านที่ราบจนพบกับแม่น้ำโยทะกาไหลมาจากนครนายกลงแม่น้ำบางปะกง จุดนี้เองเป็นเส้นทางเดินทัพในสมัยโบราณที่ถูกกล่าวถึงเมื่อคราวสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีไล่รบกับกองทัพพม่าแถบเมืองบางคางหรือปราจีนบุรี
ตั้งแต่ช่วงบ้านสร้าง ทางรถไฟโค้งไปทางตะวันออกล้อกับแม่น้ำบางปะกงที่เรียกตอนนี้ว่าแม่น้ำปราจีนบุรี ซึ่งจะมีแนวเทือกเขาใหญ่ขนานอยู่ทางทิศเหนือ จนเข้าสู่เมืองปราจีนบุรี จากจุดนี้ทางรถไฟใช้การตัดทางใหม่ลัดเข้าสู่ต้นน้ำบางปะกง มีชุมชนโบราณที่เป็นด่านระหว่างทางบนลำน้ำ เช่น ประจันตคามหรือด่านกบแจะ กบินทร์บุรีหรือด่านหนุมานและพระปรง(เป็นจุดที่ทางรถไฟข้ามแควหนุมานและแควพระปรง ต้นน้ำบางปะกง) ต่อจากนั้นจึงใช้เส้นทางบกตัดลัดผ่านชุมชนที่ราบ เช่น สระแก้ว วัฒนานคร จนถึงอรัญประเทศและจุดผ่านแดนบ้านคลองลึกเข้าสู่ปอยเปตของกัมพูชา
แท้จริงแล้ว เส้นทางรุถไฟจากปราจีนบุรีจนถึงอรัญประเทศน่าจะซ้อนทับลงบนทางเดินบกโบราณจากภาคกลางของไทยไปสู่ที่ราบลุ่มทะเลสาบของเขมรที่เรียกกันว่า ฉนวนไทย มีแหล่งโบราณคดีใหญ่น้อยกระจายตัวกันตามลำน้ำอันเป็นต้นสายแม่น้ำบางปะกงคือแควหนุมานกับแควพระปรง และยังมีด่านพระจารึก ซึ่งปรากฏชื่อในเอกสารพงศาวดารสมัยอยุธยาว่าเป็นจุดสำคัญทางประวัติศาสตร์บนเส้นทางสายนี้ด้วย
ดังนั้น เส้นทางรถไฟจากชายแดนไทย-กัมพูชาที่มีต่อไปจนถึงศรีโสภณ พระตะบอง จึงน่าจะสร้างลงบนทางเดินโบราณนี้ด้วยเช่นกัน
ของการจราจร ทั้งนักท่องเที่ยวและรถขนส่งสินค้า ไทยและกัมพูชาจึงมีแนวคิด แยกคนและสินค้า ออกจากกัน เน้นการขนส่งสินค้าเป็นหลัก ที่ตั้งบ้านหนองเอี่ยน ตำบลท่าข้าม จังหวัดสระแก้ว.
-----------------------------------------------------------------------------------------
ชายแดนเบื้องบูรพา ป่างามน้ำตกสวย
มากด้วยรอยอารยธรรมโบราณ ย่านการค้าไทย-เขมร

จังหวัดสระแก้ว

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ไบยังการนำทางไปยังการค้นหา
จังหวัดสระแก้ว
ตราประจำจังหวัดสระแก้ว
ตราประจำจังหวัด
ชายแดนเบื้องบูรพา ป่างามน้ำตกสวย
มากด้วยรอยอารยธรรมโบราณ ย่านการค้าไทย-เขมร
ข้อมูลทั่วไป
อักษรไทยสระแก้ว
อักษรโรมันSa Kaeo
ผู้ว่าราชการนายวิชิต ชาตไพสิฐ
(ตั้งแต่ พ.ศ. 2561)
ข้อมูลสถิติ
พื้นที่7,195.436 ตร.กม.[1]
(อันดับที่ 27)
ประชากร561,938 คน[2] (พ.ศ. 2560) 
(อันดับที่ 43)
ความหนาแน่น78.09 คน/ตร.กม.
(อันดับที่ 64)
ISO 3166-2TH-27
สัญลักษณ์ประจำจังหวัด
ต้นไม้มะขามป้อม
ดอกไม้แก้ว
สัตว์น้ำปลาบ้า
ศาลากลางจังหวัด
ที่ตั้งภายในศูนย์ราชการจังหวัดสระแก้ว หมู่ที่ 3 ถนนสุวรรณศร ตำบลท่าเกษม อำเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว 27000
โทรศัพท์(+66) 0 3742 1135
เว็บไซต์จังหวัดสระแก้ว
แผนที่
ประเทศมาเลเซียประเทศพม่าประเทศลาวประเทศเวียดนามประเทศกัมพูชาจังหวัดนราธิวาสจังหวัดยะลาจังหวัดปัตตานีจังหวัดสงขลาจังหวัดสตูลจังหวัดตรังจังหวัดพัทลุงจังหวัดกระบี่จังหวัดภูเก็ตจังหวัดพังงาจังหวัดนครศรีธรรมราชจังหวัดสุราษฎร์ธานีจังหวัดระนองจังหวัดชุมพรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์จังหวัดเพชรบุรีจังหวัดราชบุรีจังหวัดสมุทรสงครามจังหวัดสมุทรสาครกรุงเทพมหานครจังหวัดสมุทรปราการจังหวัดฉะเชิงเทราจังหวัดชลบุรีจังหวัดระยองจังหวัดจันทบุรีจังหวัดตราดจังหวัดสระแก้วจังหวัดปราจีนบุรีจังหวัดนครนายกจังหวัดปทุมธานีจังหวัดนนทบุรีจังหวัดนครปฐมจังหวัดกาญจนบุรีจังหวัดสุพรรณบุรีจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจังหวัดอ่างทองจังหวัดสิงห์บุรีจังหวัดสระบุรีจังหวัดลพบุรีจังหวัดนครราชสีมาจังหวัดบุรีรัมย์จังหวัดสุรินทร์จังหวัดศรีสะเกษจังหวัดอุบลราชธานีจังหวัดอุทัยธานีจังหวัดชัยนาทจังหวัดอำนาจเจริญจังหวัดยโสธรจังหวัดร้อยเอ็ดจังหวัดมหาสารคามจังหวัดขอนแก่นจังหวัดชัยภูมิจังหวัดเพชรบูรณ์จังหวัดนครสวรรค์จังหวัดพิจิตรจังหวัดกำแพงเพชรจังหวัดตากจังหวัดมุกดาหารจังหวัดกาฬสินธุ์จังหวัดเลยจังหวัดหนองบัวลำภูจังหวัดหนองคายจังหวัดอุดรธานีจังหวัดบึงกาฬจังหวัดสกลนครจังหวัดนครพนมจังหวัดพิษณุโลกจังหวัดอุตรดิตถ์จังหวัดสุโขทัยจังหวัดน่านจังหวัดพะเยาจังหวัดแพร่จังหวัดเชียงรายจังหวัดลำปางจังหวัดลำพูนจังหวัดเชียงใหม่จังหวัดแม่ฮ่องสอนแผนที่ประเทศไทย จังหวัดสระแก้วเน้นสีแดง
เกี่ยวกับภาพนี้

สารานุกรมประเทศไทย ส่วนหนึ่งของสารานุกรมประเทศไทย
สระแก้ว เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคตะวันออกของประเทศไทย แยกออกมาจากจังหวัดปราจีนบุรีเมื่อปี พ.ศ. 2536

สัญลักษณ์ประจำจังหวัด[แก้]

ประวัติศาสตร์[แก้]

ในสมัยอาณาจักรสุวรรณภูมิและอาณาจักรทวารวดี สระแก้วเป็นชุมชนที่มีความสำคัญแห่งหนึ่ง มีฐานะเป็นเมืองขึ้นของเมืองปราจีนบุรี (เมืองประจิมในสมัยโบราณ)
สระแก้ว เป็นชื่อที่มาจากชื่อสระน้ำโบราณซึ่งอยู่ในพื้นที่อำเภอเมืองสระแก้ว มีอยู่จำนวน 2 สระ ในสมัยกรุงธนบุรีราวปี พ.ศ. 2323 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (เมื่อครั้งทรงเป็นสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก) เป็นแม่ทัพยกทัพไปตีกัมพูชา (เขมร) ได้แวะพักกองทัพที่บริเวณสระน้ำทั้งสองแห่งนี้ กองทัพได้อาศัยน้ำจากสระใช้สอยและได้ขนานนามสระทั้งสองว่า "สระแก้ว-สระขวัญ" และได้นำน้ำจากสระทั้งสองแห่งนี้ใช้ในการประกอบพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา โดยถือว่าเป็นน้ำบริสุทธิ์
สมัยก่อนสระแก้วมีฐานะเป็นตำบลขึ้นอยู่ในการปกครองของอำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดกบินทร์บุรี ซึ่งทางราชการได้ตั้งเป็นด่านสำหรับตรวจคนและสินค้าเข้า-ออก มีข้าราชการตำแหน่งนายกองทำหน้าที่เป็นนายด่าน จนถึงปี พ.ศ. 2452 ทางราชการจึงได้ยกฐานะขึ้นเป็นกิ่งอำเภอ ชื่อว่า กิ่งอำเภอสระแก้ว โดยใช้ชื่อสระน้ำเป็นชื่อกิ่งอำเภอ ขึ้นกับอำเภอกบินทร์บุรี ภายหลังจังหวัดกบินทร์บุรีถูกยุบ จึงถูกยุบรวมกับจังหวัดปราจีนบุรี (เมื่อวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2468) ต่อมาเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2501 ได้มีพระราชกฤษฎีกายกฐานะขึ้นเป็นอำเภอชื่อว่า อำเภอสระแก้ว ขึ้นอยู่ในการปกครองของจังหวัดปราจีนบุรี และในวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2536 ได้รับการยกฐานะเป็นจังหวัด เป็นจังหวัดลำดับที่ 74 ของประเทศไทย
สระแก้ว-สระขวัญ จุดกำเนิดชื่อจังหวัดสระแก้ว ที่ตั้ง : ถนนเทศบาล 2 ข้างสำนักงานเทศบาลเมืองสระแก้ว ตำบลสระแก้ว อำเภอเมืองสระแก้ว

การเกิดชุมชนและการตั้งถิ่นฐานบริเวณเมืองสระแก้ว[แก้]

ประมาณ 4,000 ปีก่อน บริเวณอ่าวไทยยังเป็นทะเลโคลนตมเว้าลึกเข้ามาในแผ่นดินมากกว่าปัจจุบัน พื้นที่ที่เป็นจังหวัดสระแก้วยังไม่มีผู้คนอยู่อาศัย เป็นเพียงแค่ทางผ่าน ต่อมาเริ่มมีคนมาตั้งถิ่นฐานจนขยายใหญ่ขึ้นเป็นหมู่บ้าน ผู้คนพากันตั้งหลักแหล่งบริเวณเชิงเขา ซึ่งปัจจุบันคือ อำเภอตาพระยา อำเภอโคกสูง อำเภอวัฒนานคร อำเภออรัญประเทศ อำเภอเมืองสระแก้ว และอำเภอเขาฉกรรจ์ โดยเฉพาะบนสองฝั่งลำน้ำพระปรงและพระสะทึง จากนั้นผู้คนได้กระจายออกไปอยู่บริเวณที่ดอนกลางทะเลโคลนตม ที่ปัจจุบันคือ อำเภอบ้านสร้างอำเภอเมืองปราจีนบุรี อำเภอประจันตคาม ในจังหวัดปราจีนบุรี
พ.ศ. 1000 ชุมชนที่ตั้งถิ่นฐานบริเวณเมืองสระแก้วได้พัฒนาเป็นชุมชนที่หนาแน่นขึ้น โดยแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม คือ กลุ่มลำน้ำพระปรง-พระสะทึง มีวัฒนธรรมแบบสุวรรณภูมิสมัยก่อนประวัติศาสตร์ และแบบทวาราวดี มีศูนย์กลางอยู่ที่เขาฉกรรจ์ และกลุ่มลำห้วยพรมโหด มีวัฒนธรรมแบบขอม ศูนย์กลางอยู่ที่ปราสาทเขาน้อย-เขารังและบ้านเมืองไผ่ (ปัจจุบันอยู่ในเขตอำเภออรัญประเทศ)
สมัยโบราณ สระแก้วมีความสำคัญในด้านเป็นเส้นทางคมนาคมทางตะวันตก-ตะวันออก (ระหว่างเมืองชายฝั่งทะเลอ่าวไทยกับกัมพูชา) และทางเหนือ-ใต้ (ระหว่างเมืองในลุ่มน้ำโขง ชี มูล กับเมืองชายฝั่งทางจันทบุรี) กระทั่งหลัง พ.ศ. 1500 รัฐพื้นเมืองต่าง ๆ ในสุวรรณภูมิมีการปรับตัวเนื่องจากการทำการค้ากับจีน ประกอบกับภูมิประเทศบริเวณอ่าวไทยเปลี่ยนแปลงกลายเป็นแผ่นดินตื้นเขินขึ้น เส้นทางคมนาคมทางน้ำเปลี่ยนแปลง ผู้คนจึงอพยพย้ายถิ่นออกจากสระแก้ว
บริเวณลุ่มน้ำบางปะกงมีกลุ่มบ้านเมืองเกิดขึ้นราว พ.ศ. 1900 เป็นชุมชนขนาดเล็ก ผู้คนเสาะหาของป่าเพื่อส่งส่วยให้แก่ราชธานีต่าง ๆ ต่อมาพัฒนาเป็นเมืองชายแดน เป็นเส้นทางเดินทัพผ่านไปยังกัมพูชา

เส้นทางการเดินทัพในอดีต[แก้]

สระแก้วเป็นเมืองชายแดน จึงเป็นทางผ่านของกองทัพในการทำสงครามกับประเทศเพื่อนบ้านอยู่บ่อยครั้ง ดังปรากฏหลักฐานจำพวกจารึกต่าง ๆ และอนุสาวรีย์ของผู้นำทัพที่ผ่านมายังเมืองนี้
สมัยอยุธยา สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ครั้งยังเป็นสมเด็จพระมหาอุปราช ได้ยกทัพมาปราบปรามอริราชศัตรูที่ลักลอบเข้าโจมตี กวาดต้อนผู้คนบริเวณชายแดน มีการตั้งค่ายคูเมือง ปลูกยุ้งฉาง ไว้ที่ท่าพระทำนบ ซึ่งเชื่อว่าคือ อำเภอวัฒนานคร ในปัจจุบัน
ก่อนกรุงศรีอยุธยาแตก พระเจ้าตากทรงหนีพม่าไปเมืองจันทบุรี โดยพาไพร่คนสนิทหนีฝ่ากองทัพพม่าไปทางทิศตะวันออก ผ่านบริเวณ ดงศรีมหาโพธิ์ อันเป็นเขตป่าต่อเนื่องจากที่ราบลุ่ม ขึ้นไปถึงที่ลุ่มดอนของเมืองสระแก้ว แล้วไปยังชลบุรี ระยอง และจันทบุรี
สมัยกรุงธนบุรี พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชครั้งเป็นเจ้าพระยาจักรี พร้อมบุตรชาย ยกทัพไปเสียมราฐและได้แวะพักแรมในบริเวณที่ปัจจุบันเรียกว่า สระแก้ว สระขวัญ
ช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ เจ้าพระยาบดินทร์เดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ขุนพลแก้วในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พักทัพก่อนยกไปปราบญวน ณ บริเวณที่ภายหลังเมื่อเสร็จศึกญวนแล้วสร้างเป็นวัดตาพระยา อำเภอตาพระยา

การรวมตัวของคนหลายเชื้อชาติ[แก้]

จังหวัดสระแก้ว เป็นที่รวมของคนหลายเชื้อชาติ ทั้งเขมร ญวน ลาว และญ้อ
ชาวเขมรอพยพเข้ามาในสระแก้ว เนื่องจากเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ (ชุ่ม อภัยวงศ์) ผู้สำเร็จราชการเมืองพระตะบอง อพยพชาวเขมรให้เข้ามาในฝั่งไทยภายหลังเหตุการณ์ที่ไทยเข้าปกครองกัมพูชาและจัดตั้งมณฑลบูรพาขึ้น แล้วถูกฝรั่งเศสยึดกัมพูชารวมทั้งมณฑลบูรพาคืนไปได้ นอกจากนี้เมื่อเกิดสงครามเวียดนามและสงครามกัมพูชาขึ้น ก็มีการอพยพชาวกัมพูชาเข้ามาในบริเวณชายแดนฝั่งไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในเขตอำเภออรัญประเทศ
ชาวเวียดนามหรือญวนอพยพมายังจังหวัดสระแก้ว เพื่อหนีภัยสงครามเวียดนามในยุคที่เวียดนามใต้แตก โดยเดินทางผ่านประเทศกัมพูชาเข้ามา ส่วนใหญ่อยู่ในอำเภออรัญประเทศ
ส่วนชาวลาวมีหลายกลุ่ม ดังเช่นกลุ่มไทยโยนกหรือลาวพุงดำเป็นกลุ่มล้านนาเดิม อาศัยมากอยู่ที่อำเภอวังน้ำเย็น รวมทั้งชาวญ้อที่มีถิ่นฐานเดิมอยู่ที่สิบสองปันนาแล้วไปตั้งรกรากที่แขวงไชยบุรีของลาว ต่อมาถูกทัพไทยกวาดต้อนลงมาที่ อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม โดยบางส่วนได้อพยพต่อมายังอำเภออรัญประเทศ นอกจากนี้ยังมีชาวอีสานอพยพเข้ามาทำมาหากินในเกือบทุกอำเภอของจังหวัดสระแก้ว

ร่องรอยอารยธรรม[แก้]

มีร่องรอยอารยธรรมโบราณปรากฏอยู่ในจังหวัดสระแก้วในรูปของปราสาทหิน แหล่งหินตัด ซากสิ่งก่อสร้าง เป็นต้น กรมศิลปากรสำรวจพบปราสาทขอมในจังหวัดสระแก้วมากถึง 40 แห่ง ตั้งเรียงรายอยู่บนเส้นทางผ่านช่องเขา หันไปทางทิศตะวันออก คือหันหน้าเข้าหานครวัด เท่าที่มีหลักฐาน พบว่าปราสาทเหล่านี้มีอายุอยู่ในราวพุทธศตวรรษที่ 12-18 แสดงถึงความสัมพันธ์ของผู้คนสองฟากฝั่งภูเขาที่ไร้เส้นเขตแดนในอดีต และตัวปราสาทยังเป็นศูนย์กลางของชุมชนโบราณอีกด้วย ลึกลงไปในผืนดินพบโบราณวัตถุซึ่งยังคงขุดค้นอยู่จนถึงปัจจุบัน เช่น ที่บ้านโคกมะกอก ตำบลเขาสามสิบ อำเภอเขาฉกรรจ์ บ้านหนองผักแว่น ตำบลคลองยาง อำเภอตาพระยา เป็นต้น โบราณวัตถุที่พบ เช่น พระพุทธรูป ชิ้นส่วนเทวรูป ลูกปัด ขวานหิน หินบดยา หม้อ ไห ฯลฯ ชี้ให้เห็นการเป็นชุมชนที่มีระบบความเชื่อและวัฒนธรรม ทั้งยังมีความสัมพันธ์กับชุมชนอื่น ๆ มีชุมชนห้วยโสมง อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรีคลองบ้านนา อำเภอบ้านนา และดงละคร ในจังหวัดนครนายก คลองบอน อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี

ที่ตั้งและอาณาเขต[แก้]

สระแก้ว เป็นจังหวัดชายแดนด้านตะวันออกตอนบนของประเทศ ตั้งอยู่ระหว่างเส้นรุ้งที่ 13 องศา 15 ลิปดา ถึง 14 องศา 15 ลิปดาเหนือ กับประมาณเส้นแวงที่ 101 องศา 45 ลิปดา ถึง 103 องศาตะวันออก โดยมีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดใกล้เคียงดังนี้

สภาพภูมิประเทศ[แก้]

สภาพทั่วไป พื้นที่จังหวัดสระแก้วโดยรวมเป็นพื้นที่ราบถึงที่ราบสูงและมีภูเขาสูงสลับซับซ้อน มีระดับความสูงจากน้ำทะเล 74 เมตร กล่าวคือ
ด้านเหนือ มีทิวเขาบรรทัดซึ่งเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำบางปะกง มีลักษณะเป็นป่าเขาทึบได้แก่ บริเวณอุทยานแห่งชาติปางสีดาเป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร
ด้านใต้ มีลักษณะเป็นที่ราบเชิงเขา มีสภาพเป็นป่าโปร่ง ส่วนใหญ่ถูกบุกรุกแผ้วถางป่าเพื่อทำการเกษตร ทำให้เกิดสภาพป่าเสื่อมโทรม ตอนกลางมีลักษณะเป็นที่ราบ ได้แก่ อำเภอวังน้ำเย็น อำเภอวังสมบูรณ์ เป็นเขตติดต่อจังหวัดจันทบุรี
ด้านตะวันออก ลักษณะเป็นที่ราบถึงที่ราบสูง และมีสภาพเป็นป่าโปร่ง ทำไร่ ทำนา
ด้านตะวันตก นับตั้งแต่อำเภอวัฒนานคร มีลักษณะเป็นสันปันน้ำและพื้นที่ลาดไปทางอำเภอเมืองสระแก้วและอำเภออรัญประเทศ เข้าเขตราชอาณาจักรกัมพูชา

ลำคลอง[แก้]

ลำคลองสายสำคัญมีดังนี้
  1. คลองพระปรง มีต้นกำเนิดจากเขาในอำเภอวัฒนานคร แล้วไหลไปรวมกับแม่น้ำหนุมานในเขตอำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี กลายเป็นแม่น้ำปราจีนบุรี ความยาว 180 กิโลเมตร
  2. คลองพระสะทึง มีต้นกำเนิดจากเขาทึ่งลึ่งในอำเภอมะขาม และเขาตะกวดในอำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ไหลไปลงแม่น้ำพระปรงที่บ้านปากร่วม ตรงแนวแบ่งเขตระหว่างอำเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว กับอำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ความยาว 164 กิโลเมตร
  3. คลองน้ำใส มีต้นกำเนิดจากเขาตาเลาะและเขาตาง็อกในอำเภอวัฒนานคร และภูเขาในประเทศกัมพูชา ความยาว 74 กิโลเมตร ใช้เป็นเส้นเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา
  4. คลองพรมโหด มีต้นกำเนิดจากเขาในตำบลช่องกลุ่ม อำเภอวัฒนานคร ไหลไปลงคลองลึก อำเภออรัญประเทศ ที่หลักเขตแดนที่ 50 ความยาว 62 กิโลเมตร ถือเป็นแนวเขตอนุรักษ์ของไทยและกัมพูชา

สภาพภูมิอากาศ[แก้]

สภาพภูมิอากาศแบ่งออกได้เป็น 3 ฤดูกาล
  • ฤดูร้อน เริ่มต้นแต่เดือนกุมภาพันธ์-เดือนเมษายน
  • ฤดูฝน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-เดือนตุลาคม ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 1,296-1,539 มิลลิเมตร
  • ฤดูหนาว ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-เดือนมกราคม อากาศเย็นและมีหมอกในตอนเช้า
อุณหภูมิโดยเฉลี่ย 27.5-28.78 องศา

หน่วยการปกครอง[แก้]

การปกครองแบ่งออกเป็น 9 อำเภอ 58 ตำบล 731 หมู่บ้าน
  1. อำเภอเมืองสระแก้ว
  2. อำเภอคลองหาด
  3. อำเภอตาพระยา
  4. อำเภอวังน้ำเย็น
  5. อำเภอวัฒนานคร
  6. อำเภออรัญประเทศ
  7. อำเภอเขาฉกรรจ์
  8. อำเภอโคกสูง
  9. อำเภอวังสมบูรณ์
 แผนที่

การศึกษา[แก้]

อุดมศึกษา
ระดับอาชีวศึกษา
โรงเรียน

การสาธารณสุข[แก้]

ด้านการสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว ประกอบไปด้วย
  • โรงพยาบาลรัฐบาล 10 แห่ง (โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงกลาโหม 1 แห่ง)
  1. โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว (โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชแห่งแรก) อำเภอเมืองสระแก้ว
  2. โรงพยาบาลคลองหาด
  3. โรงพยาบาลตาพระยา
  4. โรงพยาบาลวังน้ำเย็น
  5. โรงพยาบาลวัฒนานคร
  6. โรงพยาบาลจิตเวชสระแก้วราชนครินทร์ อำเภอวัฒนานคร
  7. โรงพยาบาลอรัญประเทศ
  8. โรงพยาบาลเขาฉกรรจ์
  9. โรงพยาบาลวังสมบูรณ์
  10. โรงพยาบาลโคกสูง
  1. โรงพยาบาลค่ายสุรสิงหนาท อำเภออรัญประเทศ
  1. สถานีกาชาดที่ 6 อรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว

อุทยานแห่งชาติ[แก้]


อุทยานแห่งชาติปางสีดา

ปราสาทหิน[แก้]

สำนักศิลปากรที่ 5 ปราจีนบุรี ได้ดำเนินงานและประสานงานกับจังหวัดสระแก้ว บริหารจัดการและปรับภูมิทัศน์ เป็นอุทยานประวัติศาสตร์แห่งใหม่ (อุทยานประวัติศาสตร์สด๊กก๊อกธม ; SADOK KOK THOM Historical Park) ซึ่งมีมติที่ประชุมแล้ว เมื่อ 7 เมษายน 2559

สถานีตำรวจ[แก้]

จังหวัดสระแก้วมีสถานีตำรวจทั้งสิ้น 17 แห่ง

ข้อมูลการเดินทาง[แก้]

รถยนต์[แก้]

จากกรุงเทพมหานคร
  • ใช้ถนนพหลโยธิน หรือถนนวิภาวดีรังสิตแล้วเลี้ยวเข้าถนนรังสิต-นครนายก เข้านครนายกใช้ถนนสุวรรณศร ( ทางหลวงหมายเลข 33 ) ถึงเขตอำเภอเมืองปราจีนบุรี อำเภอประจันตคาม
อำเภอกบินทร์บุรี ถึงตัวจังหวัดสระแก้ว ระยะทางประมาณ 214 กิโลเมตร
  • ใช้ถนนพหลโยธิน แล้วเลี้ยวขวาที่ทางแยกหินกอง ประมาณกิโลเมตรที่ 90 แยกขวาใช้ถนนสุวรรณศร ผ่านอำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก ถึงนครนายก ใช้ถนนสุวรรณศร ( ทางหลวงหมายเลข 33) ถึงเขตอำเภอเมืองปราจีนบุรี อำเภอประจันตคาม อำเภอกบินทร์บุรี ถึงตัวจังหวัดสระแก้ว ระยะทางประมาณ 245 กิโลเมตร
  • ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 ผ่านเขตมีนบุรี เขตหนองจอก ไปทางจังหวัดฉะเชิงเทรา จากนั้นให้ใช้เส้นทางไปอำเภอพนมสารคาม พอถึงประมาณกิโลเมตรที่ 35 ให้เลี้ยวขวาไปทางอำเภอกบินทร์บุรี โดยใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 พอถึงประมาณกิโลเมตรที่ 95 ให้เลี้ยวขวาอีกครั้ง เข้าถนนสุวรรณศร ไปจนถึงตัวจังหวัดสระแก้ว ระยะทางประมาณ 210 กิโลเมตร
  • ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 ผ่านเขตมีนบุรี เขตหนองจอก ไปจังหวัดฉะเชิงเทรา จากนั้นให้ใช้เส้นทางไปอำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา ผ่านศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน จะพบทางแยกเขาหินซ้อน แยกขวาไปจังหวัดสระแก้วไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 359 อีกประมาณ 65 กิโลเมตรถึงตัวจังหวัดสระแก้ว
จากนครราชสีมา
    • ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 ไปทางอำเภอปักธงชัย อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ผ่านอำเภอนาดี อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี แล้วเลี้ยวซ้ายไปตามถนนสุวรรณศร
ถึงตัวจังหวัดสระแก้ว ระยะทางประมาณ 174 กิโลเมตร
จากจันทบุรี
    • ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 317 ผ่านอำเภอมะขาม อำเภอโป่งน้ำร้อน อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี เข้าเขตอำเภอวังสมบูรณ์ จังหวัดสระแก้ว ผ่านอำเภอวังน้ำเย็น อำเภอเขาฉกรรจ์
ถึงตัวจังหวัดสระแก้ว ระยะทางประมาณ 258 กิโลเมตร
จากบุรีรัมย์
    • ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 218 อำเภอนางรอง เข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 348 ผ่านอำเภอปะคำ อำเภอโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์ เข้าเขตอำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว
ผ่านอำเภอโคกสูง อำเภออรัญประเทศ ไปตามถนนสุวรรณศร ผ่านอำเภอวัฒนานคร ถึงตัวจังหวัดสระแก้ว ระยะทางประมาณ 620 กิโลเมตร

รถโดยสารประจำทาง[แก้]

1) สาย 921 (กรุงเทพฯ - องครักษ์ - อรัญประเทศ) เส้นทางผ่านอำเภอเมืองสระแก้ว - ผ่านอำเภอวัฒนานคร - สถานีปลายทางอำเภออรัญประเทศ
2) สาย 921 (กรุงเทพฯ - องครักษ์ - อรัญประเทศ - โรงเกลือ) เส้นทางผ่านอำเภอเมืองสระแก้ว - ผ่านอำเภอวัฒนานคร - ผ่านอำเภออรัญประเทศ - สถานีปลายทางตลาดโรงเกลือ
3) สาย 999 (กรุงเทพฯ - องครักษ์ - อรัญประเทศ) เส้นทางผ่านอำเภอเมืองสระแก้ว - ผ่านอำเภอวัฒนานคร - สถานีปลายทางอำเภออรัญประเทศ
4) สาย 60 (กรุงเทพฯ - อรัญประเทศ) เส้นทางผ่านอำเภอเมืองสระแก้ว - ผ่านอำเภอวัฒนานคร - สถานีปลายทางอำเภออรัญประเทศ
5) สาย 60 (กรุงเทพฯ - อรัญประเทศ - โรงเกลือ) เส้นทางผ่านอำเภอเมืองสระแก้ว - ผ่านอำเภอวัฒนานคร - ผ่านอำเภออรัญประเทศ - สถานีปลายทางตลาดโรงเกลือ
6) รถเหลือง (Yellow Bus) (สายระยอง - พัทยา - มุกดาหาร - ยโสธร) เส้นทางผ่านอำเภอเมืองสระแก้ว ผ่านอำเภออรัญประเทศ
7) รถเหลือง (Yellow Bus) (สายระยอง - พัทยา - บุรีรัมย์ - ร้อยเอ็ด - มุกดาหาร) เส้นทางผ่านอำเภอเมืองสระแก้ว ผ่านอำเภออรัญประเทศ
8) รถเหลือง (Yellow Bus) (สายระยอง - พัทยา - อรัญประเทศ - นางรอง - สุรินทร์) เส้นทางผ่านอำเภอเมืองสระแก้ว ผ่านอำเภออรัญประเทศ
9) รถเหลือง (Yellow Bus) (สายระยอง - พัทยา - อรัญประเทศ - นางรอง - บุรีรัมย์ - สตึก) เส้นทางผ่านอำเภอเมืองสระแก้ว ผ่านอำเภออรัญประเทศ
10) รถเหลือง (Yellow Bus) (สายระยอง - ก.ม. 10 - บ่อวิน - ยโสธร - อำนาจเจริญ - มุกดาหาร) เส้นทางผ่านอำเภอเมืองสระแก้ว ผ่านอำเภออรัญประเทศ
11) รถเหลือง (Yellow Bus) (สายระยอง - ก.ม. 10 - บ่อวิน - ร้อยเอ็ด - บุรีรัมย์ - มุกดาหาร) เส้นทางผ่านอำเภอเมืองสระแก้ว ผ่านอำเภออรัญประเทศ
12) สาย 522 (บุรีรัมย์ - จันทบุรี) เส้นทางผ่านอำเภอตาพระยา - อำเภออรัญประเทศ - อำเภอวัฒนาคร - อำเภอเมืองสระแก้ว - อำเภอเขาฉกรรจ์ - ผ่านอำเภอวังน้ำเย็น
13) สาย 340 (นครราชสีมา - จันทบุรี) เส้นทางผ่านอำเภอเมืองสระแก้ว - อำเภอเขาฉกรรจ์ - ผ่านอำเภอวังน้ำเย็น - ผ่านอำเภอวังสมบูรณ์
14) สาย 341 (สระบุรี - จันทบุรี) เส้นทางผ่านอำเภอเมืองสระแก้ว - อำเภอเขาฉกรรจ์ - ผ่านอำเภอวังน้ำเย็น - ผ่านอำเภอวังสมบูรณ์
15) สาย 309 (ฉะเชิงเทรา - อรัญประเทศ) เส้นทางผ่านอำเภอเมืองสระแก้ว - อำเภอวัฒนานคร - สถานีปลายทางอรัญประเทศ
16) สาย 309 (ฉะเชิงเทรา - เขาหินซ้อน - ตลาดโรงเกลือ) เส้นทางผ่านอำเภอเมืองสระแก้ว - อำเภอวัฒนานคร - อำเภออรัญประเทศ - สถานีปลายทางตลาดโรงเกลือ
17) สาย 385 (ชลบุรี - ตลาดโรงเกลือ) เส้นทางผ่านอำเภอเมืองสระแก้ว - อำเภอวัฒนานคร - อำเภออรัญประเทศ - สถานีปลายทางตลาดโรงเกลือ
18) สาย 390 (ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ - ตลาดโรงเกลือ)
19) สาย 638 (พิษณุโลก - ตลาดโรงเกลือ) เส้นทางผ่าน พิษณุโลก - มหาวิทยาลัยนเรศวร - วชิรบารมี (พิจิตร) - นครสวรรค์ - นวนคร - รังสิต - รามอินทรา กม.3 - ฉะเชิงเทรา - พนมสารคาม (ฉะเชิงเทรา) - เขาหินซ้อน - สระแก้ว - อำเภอวัฒนานคร - อำเภออรัญประเทศ - ตลาดโรงเกลือ
20) สาย 638 (แม่สอด - ตลาดโรงเกลือ) เส้นทางผ่าน แม่สอด (ตาก) - ตาก - วังเจ้า (ตาก) - กำแพงเพชร - คลองขลุง (กำแพงเพชร) - สลกบาตร (กำแพงเพชร) - นครสวรรค์ - นวนคร - รังสิต - รามอินทรา กม.3 - ฉะเชิงเทรา - พนมสารคาม (ฉะเชิงเทรา) - เขาหินซ้อน - สระแก้ว - อำเภอวัฒนานคร - อำเภออรัญประเทศ - ตลาดโรงเกลือ

รถไฟ[แก้]

รถไฟจากกรุงเทพมหานคร - อรัญประเทศ
  • จากสถานีกรุงเทพมหานคร (เวลาประมาณ 05.55 น.) ถึงสถานีสระแก้ว (เวลาประมาณ 10:33) ถึงอรัญประเทศ (เวลาประมาณ 11.35 น.)
  • จากสถานีกรุงเทพมหานคร (เวลาประมาณ 13.05 น.) ถึงสถานีสระแก้ว (เวลาประมาณ 16:49) ถึงอรัญประเทศ (เวลาประมาณ 17.35 น.)
  • จากสถานีอรัญประเทศ (เวลาประมาณ 06.40 น.) ถึงสถานีสระแก้ว (เวลาประมาณ 07:32) ถึงกรุงเทพมหานคร (เวลาประมาณ 12.05 น.)
  • จากสถานีอรัญประเทศ (เวลาประมาณ 13.55 น.) ถึงสถานีสระแก้ว (เวลาประมาณ 14:49) ถึงกรุงเทพมหานคร (เวลาประมาณ 19.55 น.)

บุคคลที่มีชื่อเสียง[แก้]

นักการเมือง[แก้]

นักกีฬา[แก้]

นักร้อง/นักดนตรี[แก้]

นักแสดง/นางแบบ/นางงาม[แก้]








Moonfleet @นครวัด (Angkor Wat)  จังหวัดเสียมเรียบ (Siem Reap Province) ราชอาณาจักรกัมพูชา ( Kingdom of Cambodia).

บันทึกการเดินทาง การไปเยือน นครวัด (Angkor Wat)  จังหวัดเสียมเรียบ (Siem Reap Province) ราชอาณาจักรกัมพูชา ( Kingdom of Cambodia

ในช่วงเวลาระหว่าง วันเสาร์ ที่ 20 ตุลาคม 2561 ถึง 23 ตุลาคม 2561.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

22.10.2561 (2018) ตลาดเบ็ญจวรรณ - ตลาดโรงเกลือ บ้านคลองลึก ตำบล.อรัญประเทศ อำเภอ.อรัญประเทศ จังหวัด.สระแก้ว ประเทศไทย. # 44

22.10.2561 (2018) ตำนานการกวนเกษียรสมุทร และ "สะพานนาคราช" อยู่ใกล้ ประตูเมือง "นครธม" ด้านทิศใต้ จังหวัดเสียมเรียบ (Siem Reap Province) ราชอาณาจักรกัมพูชา (Kingdom of Cambodia). # 32.3

21.10.2561 หมู่บ้านแกะสลักหิน (Stone Carving village) อยู่ หลักกิโลเมตร 394 หรือ 29 Km ก่อนถึง Kralanh หรืออยู่ระหว่างเส้นทางจาก "ด่านปอยเปต" ตำบล.ปอยเปต อำเภออูร์ซเรา จังหวัดบันทายมีชัย หรือ บ็อนเตียย์เมียนเจ็ย หรือ ศรีโสภณ ไปยัง จังหวัดเสียมเรียบ ราชอาณาจักรกัมพูชา. # 8.